เชียงราย เป็นจังหวัดในภาคเหนือที่เรามาบ่อยสุดรองจากเชียงใหม่ อากาศก็ดี คนก็น่ารัก ธรรมชาติสมบูรณ์ คาเฟ่ก็ชิค เมืองก็ไม่วุ่นวาย(แต่แอบรถติดบางเวลา) อิจฉาคนที่นี่จัง นี่เคยคิดอยากย้ายบ้านมาอยู่ที่นี่ด้วยนะ 555
ครั้งนี้เรามีเวลาแค่วันเดียว เพราะนั่งเรือช้ามาจากหลวงพระบางถึงตอนดึก แล้วจะต่อเครื่องบินกลับจากเชียงรายในวันถัดไป จริงๆจะกลับเช้าเลยก็ได้ แต่ด้วยความที่ติดใจเชียงรายเป็นทุนเดิม บวกกับจะพาเพื่อนต่างชาติเที่ยวด้วย เลยเขียนทริปนี้ไว้เผื่อมันจะเป็นแผนเดินทางสำหรับคนอยากแวะเข้ามาเที่ยวที่นี่ ไม่ได้ทิ้ง “เชียงราย” ไว้ให้เป็นแค่ทางผ่านเนาะ
ถ้าอยากอ่านตอนนั่งเรือช้าจากหลวงพระบางก่อนมาเชียงราย คลิกจ้า http://www.highondreams.com/travel/luangprabang/
เนื่องจากว่าเรามาถึงเชียงรายก็ดึกแล้ว เพราะเรือช้าจากหลวงพระบางมาถึงฝั่งตอน 5 โมงเย็น กว่าจะต่อรถเข้าด่านชายแดน ทำเรื่องเข้าประเทศ และเหมารถตู้จากด่านเชียงของเข้าตัวเมืองเชียงราย เข้าที่พักก็ปาไป 4 ทุ่ม ถึงปุ๊ปนอนปั๊ปเลยจ้าาา เหนื่อยจัด
บ้านไม้กระดาน Baan Mai Kradan
มาพูดถึงที่พักกันก่อนเนาะ เพราะในคอนเสป 24 ชั่วโมงในเชียงราย จะไม่มีชั่วโมงของการพักผ่อนเลยไม่ได้เด้อ
บ้านไม้กระดาน คือสถานที่พักผ่อนของเราที่เชียงราย โลเคชั่นดี ใกล้แยกพ่อขุน ใกล้เซเว่น ใกล้ร้านอาหาร ชื่อบ้านไม้กระดานอย่าเพิ่งนึกภาพบ้านไม้เก่าๆเชียว เพราะที่นี่เค้าเป็นไม้ก็จริงแต่รีโนเวทใหม่เป็นสไตล์โมเดิร์น ชิคๆคูลๆ แต่ฟังก์ชั่นการใช้งานยังคงรูปแบบเดิมคือ ชั้นล่างเป็นถุนกิจกรรมเอนกประสงค์และชั้นบนสำหรับพักผ่อน และมีความ warm welcome จากวัสดุไม้อยู่
โทรศัพท์: +66(0)99-260-5522
อีเมล์: [email protected]
เว็ปไซท์: www.baanmaikradan.com
FB Page: www.facebook.com/baanmaikradan
Line ID: baanmaikradan001
บ้านไม้กระดานยังตอบสนองความวัยรุ่นด้วยที่พักแบบ HOSTEL จะมากับเพื่อนฝูง หรือมาแบบเดี่ยวๆเที่ยวคนเดียว ที่นี่ก็รองรับได้ หรือแบบห้อง Private Room Balcony ห้องน้ำในตัวก็มีเด้อ
DORM ROOM
เราว่าเดี๋ยวนี้ที่พัก ถือว่ามีความสำคัญกับการท่องเที่ยวมากขึ้นนะ จากแต่ก่อนเราเลือกที่พักเอาไว้แค่นอนอย่างเดียว ตอนนี้เวลาเลือกพักที่ไหนมันต้องมีมุม Chill & Relax อะ แบบเตรียมตัวก่อนออกไปเที่ยว หรือไปเที่ยวกลับมาพักผ่อน เราจะมองโรงแรมว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหนึ่งเหมือนกัน
ตีปิงปองแป๊ป
ห้องนั่งเล่นชั้นล่าง ฟีลเหมือนอยู่บ้านเลย
เอาล่ะ ได้เวลาออกเดินทาง เราเลือกเช่ามอไซด์แว๊นรอบเชียงรายค่ะ เหมือนทุกๆครั้งที่เคยมา 5555 รถมอไซด์เช่าได้จากบ้านไม้กระดานเลยวันละ 200 บาท
“ชีวิตธรรมดา”
เป็นคาเฟ่เราอยากพาเพื่อนไปเยือน จิบกาแฟ นั่งคุยกันริมน้ำ และรอแดดร่มลงอีกซักนิดนึง ก่อนจะออกไปต่อ ไม่ได้มา 2 ปี ตอนนี้ที่นี่ขยายใหญ่กว่าเดิม มีโซนบาร์เพิ่มขึ้นมาด้วย แสดงว่าเราจะสามารถอยู่ได้ถึงค่ำๆได้แล้วหนะสิ
https://www.facebook.com/Chivit-Thamma-Da-Coffee-House-BistroBar-178326392243321/
ชีวิตธรรมดา ตกแต่งเหมือนบ้านผู้ดีสไตล์อังกฤษ ที่เปิดให้คนนอกเข้ามาจิบชาที่สวนได้ มีระเบียงริมน้ำ คาเฟ่ เบเกอรี่ บาร์ ห้องสมุด เรือนกระจก พาใครมาก็ชอบใจ มาเชียงรายกี่ครั้งก็ต้องมาที่นี่ทุกครั้ง
แต่ละโต๊ะจัดตำแหน่งได้น่านั่งมาก ร่มรื่น ดูสบาย จนรู้สึกอยากมีบ้านแบบนี้บ้าง
นอกจากสถานที่สวยๆแล้ว เครื่องดื่มขนมก็ดีไม่แพ้กัน เราลองสั่งกาแฟชีวิตธรรมดา เป็น Signature ของที่นี่ มันเป็นเหมือนก้อนน้ำแข็งกาแฟ เสริฟคู่กับนมและไซรัป พอเราราดนมลงไปตัวเกร็ดกาแฟน้ำแข็งจะละลายผสมกับนมพอดี เป็นกาแฟเย็นที่มีเทคนิคการดื่มมากกว่าเดิม ฮ่าๆ
ส่วนของอาหารก็มีนะ แต่เรายังไม่ได้ลองอ่ะ
นิวยอร์คชีสเค้ก + ไอศกรีมวนิลาก็อร่อย
หมู่บ้าน 5 ชนเผ่าเชียงราย
ความฝรั่งอะเนาะ นางก็จะอยากเห็นอะไรที่บ้านเค้าไม่มี เลยพาไปดูหมู่บ้าน 5 ชนเผ่า แถวๆดอยดินแดง ได้ดูกะเหรี่ยง Long neck village สมใจนางหละ ค่าเข้าคนละ 200 บาท
เค้าบอกว่ามัน Incredible มากๆ กับการที่ผู้หญิงใส่ห่วงที่คอ แต่ก็รู้ๆอยู่ว่าที่นี่ไม่ใช่ที่เค้าอยู่จริงแต่แรก เป็นหมู่บ้านที่สร้างขึ้นสำหรับนักท่องเที่ยว ให้เข้ามาศึกษาและเรียนรู้ และเป็นรายได้ทางหนึ่งของชาวเผ่า ถ้าอยากเห็นชาวเผ่าจริงๆ หมู่บ้านจริงๆ เค้าไปอยู่บนเขาโน้นนน แต่เราก็ชอบนะ กะเหรี่ยงที่นี่น่ารัก เฟรนลี่ดี มันดีที่เค้ายังอยากอนุรักษ์วัฒนธรรม ประเพณีของตัวเองไว้ ในขณะที่สังคมปัจจุบันเปลี่ยนไปมากมายแล้ว
นอกจากหมู่บ้านกะเหรี่ยง ยังมีเผ่าอาข่า เผ่าลาหู่ เผ่าเย้า เผ่าป่าหล่อง แต่ละหมู่บ้านตั้งห่างๆกัน มีการแสดงแต่ละชนเผ่าด้วย
วัดร่องขุ่น (White Temple)
ไม่มาไม่ได้เลยที่นี่ ก็อยากอวดศิลปะไทยให้ชาวต่างชาติได้เชยชมอะ ที่นี่เป็นวัดสีขาวทรงไทย ที่มีดีเทลลายไทยละเอียดมากทั้งหน้าจั่ว หลังคา โบสถ์ เสา ผนัง คือทุกส่วนของวัดอะเป็นสีขาว
แต่ความดีเทลของที่นี่มันไม่ได้ขาวล้วนๆนะ เป็นขาวแซมกระจก พอเวลากระจกสะท้อนกับแสงแดดจะทำให้วัดเป็นประกาย โคตรล้ำ ช่วงที่สร้างแรกๆเหมือนจะมีกระแสดราม่าเล็กๆว่า ที่นี่ไม่สมควรเป็นวัดเพราะไม่เหมือนวัดดั้งเดิมเลย แต่ในที่สุดแล้วเพราะความไม่เหมือนเดิมนี่แหละ ที่ทำให้สร้างรายได้มหาศาล จนเป็นที่ยอมรับได้ว่า โอเค นี่คือวัดไทยสมัยใหม่นี่เอง
วัดร่องขุ่น สร้างโดย อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ ก่อสร้างละเอียดจริงๆ ถึงต้องใช้เวลาในการสร้างนานขนาดนี้ จากอ่านสัมภาษณ์อาจารย์ก็ยังบอกว่า การก่อสร้างวัดร่องขุ่นจะไม่เสร็จลงในช่วงชีวิตของตน
ระหว่างทางเดินเข้าอุโบสถ บริเวณข้างทางจะมีมือที่ผุดมาจากพื้นดิน พยายามตะเกียกตะกายขึ้นมา หรือไม่ก็จะฉุดเราลงไปข้างล่าง จาก Wikipedia บอกว่า หมายถึงการเดินข้ามจากวัฏสงสารสู่พุทธภูมิ ซึ่งคืออุโบสถนั่นเอง จริงๆมีดีเทลการออกแบบเยอะกว่านี้นะ ลองไปหาอ่านกันดู
ยังไม่หมดนะ ข้างในเราสามารถบริจาคเงินเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างวัดได้ แล้วเราจะได้แผ่นเหล็กใบโพธิ์มา เขียนคำอธิฐานหรือคำอวยพร แล้วเอาใบโพธิ์นี้ ไปแขวนบนต้นไม้ที่จัดไว้ให้
แล้วเราก็เป็นส่วนหนึ่งในการสมทบทุนสร้างวัดแห่งนี้แล้ว แม้จะน้อยนิด แต่มันก็คือการที่เราได้ให้แหละ
SINGHA PARK (ไร่บุญรอด)
ถัดมาไม่ใกล้ไม่ไกลจากวัดร่องขุ่น ไปที่ ไร่บุญรอด หรือ สิงค์ปาร์ค ชื่อดังจังหวัดเชียงราย ที่นี่เหมือนเป็นสวนสาธารณะ มาเดินเล่น มาพักผ่อน มานั่งดูวิวไร่ชา
จริงๆแล้วที่นี่ยังมีกิจกรรมให้ทำอีกเยอะ เช่น ฟาร์มทัวร์ ให้อาหารยีราฟ ม้า วัว ควาย ดูแปลงเกษตรแบบผสมผสาน ดูไร่ชาอู่หลง ดูทุ่งดอกไม้ เอ้อออ ที่เด็ดสุดคือมี Zipline ด้วย
สิงห์ปาร์คมีพื้นที่กว่า 600 ไร่ การเที่ยวชมมีอยู่หลายวิธี เช่น ปั่นจักรยานทัวร์ หรือจะนั่งรถ Shuttle Bus ชมรอบๆฟาร์มก็ได้ กิจกรรมฟาร์มทัวร์เนี่ยจะเปิดให้ชม 8.30 -17.00 ส่วนเรามาห้าโมงครึ่ง ไม่ต้องชมฟาร์มกันละ มานั่งเล่นดูแสงทองตอนเย็นก็พอใจ
LAST STOP IN เชียงราย
ใกล้ถึงเวลากลับบินกลับเข้ามาทุกที เราขับรถมอไซด์กลับเข้าเมืองไปหาอะไรกิน ก่อนที่จะต้องนั่งเครื่องกลับรอบ 5 ทุ่ม ถ้าคิดไม่ออกว่าจะกินอะไรดี เราแนะนำให้ไปถนนคนเดินเลย แต่ด้วยความที่เราอยากนั่งพัก ไม่อยากเดินแล้ว อยากนั่งจิบเบียร์ ชิลๆ พร้อมกับแกล้มอร่อยๆ ก็เลยไปจบที่ร้าน “เชียงรายรำลึก” ร้านอยู่แยกหอนาฬิกาเลย บรรยากาศดี นั่งได้ยาวๆ
เวลาแค่ 24 ชั่วโมง หรือ เวลาตั้ง 24 ชั่วโมง มันจะมากหรือน้อยก็อยู่ที่เราจัดสรรค์เอง เราใช้เวลาที่เชียงรายครบ 24 ชั่วโมงพอดีนะ แล้วมันก็พอดีกับกิจกรรมที่เราได้ทำ ไม่ได้เร่งไป แล้วก็ไม่ได้ช้าไป แม้ว่าจะเที่ยวไม่ครบแลนด์มาร์ค แต่ก็เอาไว้มาใหม่ก็ได้นี่เนาะ
และนี่คือ “เชียงราย” ในแบบของเรา
ต้นอ้อ
