GREAT OCEAN ROAD ขับรถเที่ยวออสเตรเลียครั้งแรก

เห็นตั๋ว กรุงเทพ-ออสเตรเลีย ช่วงนี้ราคากำลังดี เลยอยากหยิบทริปที่ไปปีที่แล้วมารีวิวให้ฟัง ทริปนี้เราไปกัน 2 คน 13 วัน  Melbourne + Tasmania แบบพยายามประหยัดแล้วได้เท่านี้ เพราะทุกอย่างแพงกว่าค่าชีวิตในไทยเยอะมาก 555

มาค่ะ…. และอัลบั้มนี้เราจะเล่าถึง Great Ocean Road ก่อนละกัน 

เป็นเส้นทางยอดฮิต ของคนเริ่มต้น RoadTrip ในต่างประเทศ ที่นี่ติดหนึ่งในถนนที่สวยที่สุดของออสเตรเลียเลย ในระยะทางน่ารักๆ 2 วัน 1 คืน (สำหรับคนเวลาน้อย) 525KM ไป-กลับ ขับง่าย แต่บอกเลยว่าสวยคุ้มมากกกก เหมือนงานศิลปะชิ้นใหญ่ของศิลปินที่ชื่อธรรมชาติ สร้างไว้อย่างอลังเลย

เราเริ่มจากเมือง Melbourne ขับเลาะริมทะเล จอดรถริมหน้าผา แวะถ่ายรูป มีจุดเข้าห้องน้ำ ช้อปปิ้งระหว่างทาง เราจะไปถึงปลายทางจุดชมวิวสวยๆ อย่าง Twelve Apostels , Gibson Step , etc. ตอนช่วงพระอาทิตย์ตกพอดี แสงสวย อย่าพลาดๆ แล้วไปนอนพักที่ Port Cambell อุทยานแห่งชาติและเมืองท่าริมทะเลเล็กๆ ตะมุตะมิ วินเทจ

ใกล้ๆ Port Cambell ก็มีจุดชมวิวหน้าผาหินอีกหลายๆแห่ง เดี๋ยวเราจะปักหมุดจุดที่เราแวะไว้ให้ในคอนเท้นท์นี้แหละ ส่วนรีวิวที่พัก ที่เที่ยว ที่กิน ในเมลเบิร์น CBD จะเขียนให้อีกคอนเท้นท์ค่ะ

ลุยค่าาา……

ITINERARY GREAT OCEAN ROAD

DAY 1 

  • 9.00 รับรถเช่า
  • ออกเดินทางเริ่มทริป Great Ocean Road
  • แวะพัก Angle sea town
  • Teddy’s Look out
  • Random Beach
  • ป่าสน California Redwoods
  • Sunset at Gibson Step
  • Stay at Sow And Piglets Hotel, Port Cambell

DAY 2

  • 6.00 Sunrise at Twelve Apostels(ฮิต)
  • จุดชมวิว The Razorback Rock 
  • จุดชมวิว Loch Ard Gorge
  • จุดชมวิว Thunder cave
  • กลับมา Checkout และหาไรกินที่ Port Cambel
  • จุดชมวิว London Bridge
  • จุดชมวิว The Grotto 
  • ขับรถยาว 3 ชม. กลับ Melbourne
  • 18.00 จบทริป Great Ocean Road

BEFORE YOU GO

เตรียมตัวก่อนไป

1.VISA

เข้าออสเตรเลียต้องมีวีซ่านะคะ วิธีการขอ Tourist Visa (Subclass600) สามารถดูจากลิ้งนี้ได้ค่ะ https://www.you.co/th/blog/visa-australia-tourist/ มีค่าใช้จ่าย 145AUD ตอนยื่นเอกสารออนไลน์ และจ่ายอีก 851บาท ตอนเข้าไปเก็บลายนิ้วมือที่ศูนย์ VFS ไม่ต้องฝากพาสปอร์ตไว้ที่สถานทูต ตัววีซ่าจะส่งมาให้ทางอีเมล เราใช้เวลา 15 วัน ได้วีซ่าท่องเที่ยวมา 3 ปี แต่แนะนำว่าควรเผื่อเวลาขอวีซ่าก่อนเดินทางไว้ซักเดือนเนอะ 

2.แลกเงิน

ที่ออสเตรเลียเกือบทุกที่ รับบัตรเครดิต และบัตร Travel Card (Krunsri travel card) เค้าเป็นสังคม Cashless กันแล้วค่ะ แทบไม่ได้ใช้เงินสดเลย 1-2ดอลล่าก็ติ๊ดบัตร แต่ก็ต้องแลกมาพกไว้บ้างในกรณีที่บัตรเครดิตเรามีปัญหา บางร้านแตะบัตรจ่ายได้ บางร้านก็ไม่ได้ งงมากแม่ (แต่ส่วนใหญ่ก็ได้นะ) เราแลกเงินสดก่อนเดินทางที่ Superrich 600AUD ช่วงที่เราไปค่าเงินค่อนข้างสูง อะไรๆก็เลยแพงหน่อย 1AUD = 25THB 

3.ตั๋วเครื่องบิน

วันเดินทางเรา Flexible มาก ก็เลยเลือกเดินทางในวันที่ตั๋วราคาถูกที่สุดในช่วงนั้น สามารถเช็คตั๋วเครื่องบินที่ App https://th.trip.com/ เค้าจะรวมทุกสายการบินทั่วโลกในที่เดียว ทำให้ง่ายต่อการค้นหา หรือ Traveloka.com App ประจำช่วงเริ่มเดินทางแรกๆ เพราะดูง่าย ถ้าเดินทางในแถบเอเชียจะใช้ Traveloka จะราคาดีกว่า 

4.การเดินทางใน Melbourne

สามารถเช่ารถขับได้จากสนามบิน มีหลายบริษัทให้เลือกเลย อย่าง https://www.budget.com.au/en/home , https://www.avis.com.au/en/ , https://www.bargaincarrentals.com.au  เป็นต้น

แต่เราใช้รถเช่าแค่ 2 วันสำหรับไป Great Ocean Road ส่วนวันอื่นๆที่ไม่เช่ารถ จะใช้ UBER กรณีออกนอก CBD และใช้ Tram สำหรับเดินทางใน CBD จะสะดวกกว่าและฟรี เดี๋ยวเขียนสิ่งที่ควรรู้ก่อนมาขับรถที่นี่ไว้ให้อีกหัวข้อนึง 

5.Internet/SIM

เราใช้ Local Sim ของ telsla ซื้อได้ที่บูสอยู่หน้าทางออกจากเกตสนามบินเมลเบิร์นเลย 30AUD ได้เนต 30G ระยะเวลา 30 วัน มีสัญญาณตลอด ยกเว้นที่  Bruny Island ที่ไม่ค่อยดี

6.ประกันเดินทาง

เดินทางไกลแบบนี้ประกันการเดินทางอย่าให้ขาด ถ้าไฟล์ทดีเลย์หรือกระเป๋าไม่มา มันคุ้มที่จะได้เงินชดเชย ดีกว่าการต้องเสียเวลาแล้วยังไม่ได้อะไรเลย เราทำกับ https://www.cigna.co.th/our-plans/travel-insurance เพราะกรอกข้อมูลออนไลน์สะดวกดี แต่ยังไม่มีโอกาสได้เครมอะไร เลยไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดี นี่ไม่ได้สปอนเซอร์นะ 

7.สภาพอากาศ

ฤดูกาลในออสเตรเลียจะแปลกว่าบ้านเราเยอะอยู่  ฤดูหนาวบ้านเราคือช่วงฤดูร้อนเค้า เราก็ต้องรู้ไว้จะได้เตรียมชุดมาถูก ของเราไปช่วง ต้นสิงหาคม อยู่ในช่วงฤดูหนาว ซึ่งบ้านเรากำลังร้อนมากๆ แต่มันจะมีทั้งฝนบ้าง แดดบ้าง ลมแรงบ้างภายใน 1 วัน ไบโพล่าสุด

- ฤดูร้อน Summer (ธันวาคม – กุมภาพันธ์) : อุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 25°C และ อุณหภูมิสูงสุดประมาณ 40°C
- ฤดูใบไม้ร่วง (มีนาคม – พฤษภาคม)          : อุณหภูมิต่ำสุดประมาณ   9°C และ อุณหภูมิสูงสุดประมาณ  17°C
- ฤดูหนาว (มิถุนายน – สิงหาคม)                : อุณหภูมิต่ำสุดประมาณ   7°C และ อุณหภูมิสูงสุดประมาณ  14°C
- ฤดูใบไม้ผลิ (กันยาย – พฤศจิกายน)          : อุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 10°C และ อุณหภูมิสูงสุดประมาณ  20°C

คำแนะนำขับรถในเมลเบิร์นเท่าที่รู้เพราะเราก็ถามเค้ามาเหมือนกัน

  • ที่ออสเตรเลียขับรถเลนซ้าย พวงมาลัยทางขวาเหมือนที่ไทยเลย เข้าใจง่ายดี
  • ถนนนอกเมืองถ้าเป็นทางหลักดีนะ หลุมบ่อน้อย เส้นถนนชัดเจน ตรงไหนมีหลุมจะมีป้ายเตือนยิ่งใหญ่มาก
  • ถ้าขับรถในย่าน CBD จะงงนิดนึง เพราะต้องระวัง TRAM ที่อยู่ในเลนเราไม่คุ้นชิน ดูสัญญาณไฟให้ถูกว่าไฟเขียวไฟแดงของเลนไหน ของเรา ของTram หรือของคนข้ามถนน จอดไฟบ่อยมากๆ
  • สัญญาณไฟคนข้ามถนน ต้องจอดให้คนข้ามก่อนทุกครั้ง 
  • ให้รถทางตรงไปก่อน แม้ว่าทางเราจะสะดวกกว่า 
  • -มันจะมีป้าย Hook turn ที่ทำเรางงอีกอัน คือถ้าเราจะเลี้ยวขวา แต่เราต้องไปอยู่เลนซ้าย งงมากแม่ ตลอดเวลาที่ขับใน CBD ก็เลยไม่เลี้ยวขวาเลย ใช้วิธีขับอ้อมวนรอบบล็อคเมืองเอา 555
  • -กฏหมายขับรถที่นี่เข้มงวดมากนะ ถ้ามีป้ายบอก 50km ก็คือห้ามขับเกินนี้ ค่าปรับแพงมาก บนถนนก็เลยจะเห็นรถทุกคันขับกันแบบต๊ะต่อนยอนสุดๆ ใจเย็นๆค่ะ
  • -งงนะ ที่ต้องเติมน้ำมันเอง เลยเติมเต็มถังทุกครั้ง เติมเสร็จเข้าไปจ่ายใน Supermarket ของปั๊ม
  • -การขึ้นทางด่วนที่นี่ไม่มีด่านกั้นเก็บตังค์อะไรทั้งนั้นอะ เหมือนทางปกติเลย แต่มันจะไปตัดเงินกับบัตรเครดิตที่แจ้งไว้ตอนเช่ารถ นี่โดนตัดบัตรไป 4 ด่าน (ด่านละ 5-7AUD) ทุกวันนี้ยังงงว่า ทางด่วนอยู่ตรงไหนวะ? ทั้งๆที่พนักงานเช่ารถบอกถ้าจะไป Great Ocean Road ไม่ต้องขึ้นทางด่วนก็ได้จ้า
  • -เราเช่ารถกับ BUDGET เพราะมีสาขาอยู่กลาง CBD เลย  การจองไม่ยาก แต่ยากตอนคืน เพราะไม่สามารถคืนนอกเวลาทำการได้ และเวลาทำการก็คือจะปิดเร็วไปไหน เช่น วันอาทิตย์ปิดทำการตอนเที่ยงงี้ จะคืนรถหลังเที่ยงนี้ไม่ได้เลยนะ ไม่มี Drop กุญแจอะไรทั้งสิ้น ต้องคืนวันถัดไป ซึ่งมีค่าเช่ารถเพิ่มอีกวัน มีค่าจอดรถข้ามคืนอีกคืน บ้าบอ
  • – ค่าจอดรถข้ามคืนใน CBD แพงมาก ราคาแต่ละโลเคชั่นก็ไม่เหมือนกัน ที่จอดไม่ได้เปิด 24 ชั่วโมงทุกที่ วิธีหาที่จอดง่ายๆ คือ google map เซิร์ดว่า Wilson Parking มันก็จะขึ้นมาเป็นสิบๆที่ทุกหัวมุมเมือง กดเข้าไปดู Parking ที่อยู่ใกล้ที่พักเรา จะขึ้นเวลาเปิดปิดทำการ มีลิงค์เข้าไปให้กดจอง แนะนำว่าให้จองออนไลน์ก่อนเพราะจะได้ราคาถูกกว่าขับไปจอดเลยเกือบเท่านึง https://www.wilsonparking.com.au ทำใจไว้ว่าค่าจอดคืนละเป็นพันอยู่ (35AUD)

รีวิวขับรถเที่ยวเส้นทาง Great Ocean Road

DAY 1

เช้าวันแรกเราออกเดินทางกันตั้งแต่ 9 โมง ไปรับรถเช่าก่อนที่ BUDGET CAR RENT สาขา CBD Melbourne ทำนู่นนี่นั่น หลงทาง เลี้ยวผิดไปหลายรอบกว่าจะออกจาก CBD ได้ ก็ 10 โมงกว่าละ 

เราปัก Google Map ไปที่ Port Cambel ที่พักของเรา แต่ระหว่างทางจะมีป้ายถนนทางเข้า Great Ocean Road บอก ซึ่งเป็นคนละทางกับ MAP เราแนะนำให้ขับตามป้ายค่ะ มันจะได้ฟิลลิ่งการขับรถริมทะเลตั้งแต่จุดเริ่มต้นเส้นทางเลย เส้นทางนี้ไกลกว่านิดหน่อย แต่ขากลับค่อยกลับทางนั้นค่ะ

Anglesea town

Location : https://goo.gl/maps/ZYVktvD9uMiLnpLM7 

จุดแวะพักที่เราแวะที่แรกคือ Angle sea town มันเป็นเหมือนวิลล่ามาร์เก็ตอ่ะ ที่จะมีร้านอาหาร ร้านขายของ ห้องน้ำสาธารณะ และร้านขายของเก่า เราแอบแวะนานเกินเวลาเพราะเดินดูร้านของเก่าเพลินไปหน่อย 555

Teddy’s Look Out

Location : https://goo.gl/maps/aTfufT2nbz89wrHZ9 

ในระหว่างทางเนี่ย จะมีจุดชมวิวแบบเยอะมาากกกก ถ้าจอดหมดทุกจุดคือวันนี้คงไปไม่ถึงครึ่งทางแน่ๆ ก็เลยจิ้มดูภาพใน Google map ก่อนว่าวิวเป็นยังไง จอดรถแล้วต้องเดินมั้ย เราก็เลยจิ้มมาที่นี่  Teddy’s Look Out เป็นวิวมุมสูงโดยไม่ต้องปล่อยโดรน มองเห็นเส้นถนนเลาะไปตามขอบทะเล มันดูเห็นภาพรวมของถนนเส้นนี้ดี ละวิวก็สวยด้วย 

ON THE WAY

ขับรถบนถนนเส้นนี้ไม่ต้องกลัวเลย ทางลาดยางอย่างดีดี เส้นถนนชัดสุดๆ โค้งเยอะ แต่ไม่ชัน ในช่วงโค้งสวยๆ หลายๆโค้ง เค้าก็จะทำไหล่ถนนไว้ให้นักท่องเที่ยวจอดพัก หรือชมวิวได้   เห็นวิวสวยก็ลองจอดดูเนอะ บางจุดก็อยู่บนหน้าผา บางจุดก็อยู่ติดชายหาด บางจุดก็เป็นหาดนักเซิร์ฟ SURFER วาไรตี้ดี

California Redwoods, Great Otway National Park 

Location : https://goo.gl/maps/g3V3he1CqJBPUER77 

เปลี่ยนบรรยากาศจากทะเลกันบ้าง เพราะขับเลียบทะเลมาจะ 3 ชั่วโมงแล้ว 555 เจอแต่วิวเดิม เลยออกเส้นทางนิดหน่อยไปดูป่าสน  California Redwoods เส้นทางไปจะเป็นทางลุกรังหลุมเยอะหน่อยนะ ระหว่างทางเป็นป่าดิบชื้น มีหมอกหนา เหมือนอยู่ในหนังเรื่อง the mist 

ต้นสนของที่นี่มีคาดว่ามีอายุกว่า 400 ปี และมีความสูงกว่า 110ม. ซึ่งสูงที่สุดในออสเตรเลีย และจะสูงขึ้นอีกเรื่อยๆทุกปี ถ้าไม่ตัดก่อนอะนะ ที่ป้ายบอกว่าปลูกไว้สร้างบ้านแต่มันโตช้า 15 ปีสูงได้แค่ 5 เมตรเอง เลยยังไม่ตัดจนกระทั่งพื้นที่นี้กลายเป็น  Great Otway National Park 

ใกล้ๆกันมีน้ำตก Hopetoun Falls ด้วย แต่เราไม่มีเวลาเดินไป แต่ดูภาพแล้วสวยมาก ถ้าใครมีเวลาฝากลองแวะไปดูให้หน่อยนะคะ

Sunset at Gibson Step

Location : https://goo.gl/maps/ygSH9buKws12vwGN8 

กว่าเราขับลุยออกมาจากป่าสนพระอาทิตย์ก็ใกล้จะตกแล้ว และมันก็ใกล้ถึงโซนหน้าผาหิน Landmark ของถนน great ocean road เลยจอดดูพระอาทิตย์ตกดินที่ Gibson Step ที่นี่โดดเด่นที่มีบันไดทางลงไปชายหาด ชันมากอยู่ และมีโขดหินก้อนใหญ่ทรงประหลาดตั้งอยู่ข้างหน้าหาดหนึ่งก้อน  ท้องฟ้ากำลังเป็นสีแดงเลย แม่งสวยมากกกกก จนเราให้ที่นี่เป็นจุดชมหินสวยที่สุดของทริปนี้เลย 

Port Cambell

Location : https://goo.gl/maps/BQCb3Vvvnb5FjuaP6 

ขับรถจาก Gibson Step ต่อไปอีกแค่ 12 กม. ก็ถึง Port Cambell ที่พักของเรา หมู่บ้านนี้มีขนาดเล็กๆ มีถนนเส้นหลักเส้นนึงที่มีร้านอาหารเรียงราย มีปั๊มน้ำมัน มี Supermarket มีโรงแรม จริงๆ เรามาถึงก็มืดแล้ว แต่เดี๋ยวเอาภาพตอนกลางวันให้ดู

 12 Rocks Beach bar cafe , PORT CAMBELL

Location : https://goo.gl/maps/xviCeRjdesThMAPS6 

เราแวะทานข้าวก่อนเข้าโรงแรมที่ 12 Rocks Beach bar cafe ในเมนู มีอาหารเอเชียนด้วย (2เมนู) เมิงงง อาหารเค้าแพงหน่อยแต่อร่อยมาก ปกติไม่รีวิวร้านอาหารในสถานที่เที่ยวเท่าไหร่ แต่อันนี้มันได้อะ

Sow And Piglets Brewery

Location : https://goo.gl/maps/yeZ5DAvzHLnS8zSu9 

Sow And Piglets Brewery หลักๆเป็นโรงเบียร์ รองๆเป็นโรงแรม  เลือกเพราะราคาไม่แพง เป็นโรงแรมง่ายๆ ใน Port Cambell มีห้องไพรเวทแต่ห้องน้ำรวมนะ กะว่ามาถึงดึก เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ออกเช้าอยู่ละ คงจะได้อยู่ไม่เยอะ ใน Lobby ก็คือกว้างยังกะ pub มีโซฟาหลายชุด ไว้นั่งเม้ามอยกับเพื่อนๆ กลุ่มใหญ่ สั่งเบียร์เค้ามากิน

DAY 2

GREAT OCEAN ROAD SIGHT SEEING

ต่อจากนี้เราเรียกทริปนี้ว่าทริปดูหินละ เพราะมันจะมีแต่หินทรงต่างๆกับหมุดโลเคชั่นเท่านั้นที่เปลี่ยนไป แต่ทะเลกับหน้าผาเหมือนก๊อปกันมา 555 แต่ละจุดอยู่ไม่ห่างกันมาก บางที่ขับรถเข้าไป บางที่อยู่เป็นกลุ่มก้อนจอดทีเดียวได้ 4-5 จุดเลย เราเองก็ยังไปไม่ครบทุกที่ มีเยอะเกิ้น เราชอบที่จุดชมวิวมีระยะทางเดินและชื่อบอกชัดเจน ชิลนะ ธรรมชาติมาก มีสัตวป่า มีต้นไม้แบบที่ไม่เคยเห็นที่ไทย

แผนที่จุดชมวิว Great Ocean Road

Good morning at Twelve Apostles 

Location : https://goo.gl/maps/RU5xNJ2Ypistdzvr9 

Twelve Apostles อีกแลนด์มาร์คของเส้นทาง Great Ocean Road ถ้าไม่ได้มาที่นี่ก็เหมือนมาไม่ถึงอะ  เป็นกลุ่มหินในทะเล รูปทรงแหลมๆคมๆ เพราะถูกน้ำทะเลกัดเซาะมาเป็นเวลาช้านาน เมื่อก่อนมี 12 ก้อน แต่พังลงใต้ทะเลไปแล้ว 2  ก้อน 

มาเช้าขนาดนี้คาดหวังว่าจะได้เจอแสงสวยๆ พีคๆ ตอนเช้าแต่เปล่าเลย เมฆหนาขมุกขมัวมาก ถ่ายออกมาสีเทาๆ 555 หนาวและลมแรงมาก จริงๆคิดว่าถ้ามาที่นี่ตอนพระอาทิตย์ตกเมื่อวานน่าจะสวย

The Razorback Rock 

Location : https://goo.gl/maps/QeZjdg1gH5Yn6Sdz9 

 และอันนี้คือ Razorback Rock เป็นหินทรงใบมีดโกน แปล ตรงๆตัวเลย ถูกกัดเซาะจากลม ฝน น้ำทะเล จนมีลักษณะยาวเรียว ยอดหินดูแหลมคมเหมือนมีด 

ชอบต้นนี้อะ มันขึ้นอยู่ริมหน้าผา ทรงเหมือนปะการังไฟใต้ทะเลเลย

Tom and Eva Look out

Location : https://goo.gl/maps/b559ymBS36zN9p9f6 

เค้าเล่าต่อกันมาว่าตรงจุดนี้ ครั้งหนึ่งมีเรือล่ม ทอมกับอีวาคือผู้รอดชีวิต และกลายเป็นหิน 2 ก้อนนี้ งงมะ ไหนบอกรอด รอดละเป็นหินได้ไง นี่กุอ่านมาถูกมั้ยวะเนี่ย

Loch Ard Gorge

Location : https://goo.gl/maps/yEui7BK3aq8fCk647 

เรือชื่อ The Loch Ard โดย Gorge Gib เป็นกัปตัน  ล่องข้ามทวีปมาจาก Britain จนมาถึงที่นี่ และในขณะที่ทุกคนกำลังเฉลิมฉลองการเดินทางครบ 3 เดือน อยู่ๆก็มีหมอกหนา มองไม่เห็น Light house บวกกับคลื่นลม แรงซัดมาชนกับหน้าผา วันถัดมาเรือก็จมลงตรงนี้ 

ทอมกับอีว่าก็น่าจะเป็นคนที่อยู่บนเรือนั้น

Thunder cave

Location : https://goo.gl/maps/GqB9SUJTbN7dUTzQ6 

เมื่อก่อนระหว่างหินสองก้อนนี้เป็น Arch โค้งเชื่อมกัน แต่ตอนนี้พังแล้ว บริเวณนี้จะมีละอองฟองลอยฟุ้งทั่วในอากาศ แปลกดี 

Sherbrooke River Look out

Location : https://goo.gl/maps/n1zjPLejfR3qfCtB7 

จุดนี้เป็นจุดที่มีแม่น้ำ Sherbrooke ไหลออกมาเชื่อมกับทะเล เห็นวิวไกลๆสวยดี ก็เลยลองเดินมา พอมาถึงแล้วจะเจอหาดทราย ที่ลงไปเล่นน้ำไม่ได้นะ มีป้ายเตือนเลย

Broken Head Beach

อันนี้ไม่มีใน Google Map แต่มีในป้ายบอกทาง เราเดินลัดโขดหินจาก Sherbrooke River มา Broken Head มีลักษณะเหมือนแอ่งน้ำใหญ่ๆ ที่จะมีน้ำไหลเข้ามาได้เมื่อเป็นช่วงเวลาน้ำขึ้น แต่ถึงกระนั้น ก็ยังเป็นน้ำที่แรง และลงน้ำไม่ได้ค่ะ

Mutton island

Location : https://goo.gl/maps/pwx1ND9Xs6BLAVVu8 

เกาะนี้แปลกดี เพราะมีหญ้าเขียวๆ ปกคลุมอยู่ข้างบน เค้าเรียกว่า Mutton Island ซึ่งมันเป็นที่อยู่ของนก Muttonbird  (คล้ายๆนกนางแอ่น) ในช่วง ต.ค. – เม.ย. นกชนิดนี้จะอพยพมาจากอลาสก้า เปลี่ยนที่มาหากินในแถบๆนี้ นางบินได้วันละกว่า 600 กม. เลย ถือว่าถึกจริงๆ

London Bridge

Location : https://goo.gl/maps/vMwMJbtmULHTV2NN6

London Bridge เป็นจุดชมวิวเกาะหินที่มีช่องใต้เกาะเหมือนสะพาน เมื่อก่อนที่นี่มีช่อง Arch 2 ช่องในหินก้อนเดียวกัน แต่ถล่มพังไปแล้ว  ทำไมชื่อลอนดอนยังไม่ได้อ่านมาค่ะ 

The Grotto

Location : https://goo.gl/maps/u3UbMxjzdWP5yxox9 

โลเคชั่นสุดท้ายก่อนขับรถกลับ Melbourne มาที่นี่เพราะภาพหินมีรูมันเท่ดี และเราสามารถลงไปถ่ายรูปกับหินใกล้ๆได้ ต้องเดินลงบันไดไปอีดนิดหน่อย ในบรรดาจุดชมวิวหินของวันนี้ เราชอบที่นี่สุดละ

แต่ละที่ เหมือนธรรมชาติเค้ากำลังสร้างงานศิลปะชิ้นใหญ่ ให้พวกเราได้เชยชม งานศิลปะชุดนี้เราว่าคงไม่มีวันสร้างเสร็จ เพราะในแต่ละวันศิลปินที่ชื่อธรรมชาติ เค้าก็จะปรับเปลี่ยนมันไปเรื่อยๆ ตามอารมณ์ และสภาพลมฟ้าอากาศ  ถ้าเรามาอีกรอบอาจจะไม่เหมือนเดิมแล้วก็ได้ 

ไม่ต่างอะไรกับใจเรา ที่เปลี่ยนไปได้ทุกวันเหมือนกัน ว่าจะเที่ยว Graet Ocean Road ซัก 3 วัน แต่เปลี่ยนใจเอาแค่ 2 วันก็พอแล้วจ้าาาา  ถ้าอยู่นานกว่านี้กลัวจะกลายเป็นหินเหมือน Tom and Eva ละนะ 555

และนี้ก็เป็นทริปขับรถเที่ยว Great Ocean Road ในแบบของเรา นอกจากคอนเท้นท์นี้ จะมีคอนเท้นท์เที่ยว TASMANIA 8 DAYS และ ตะลุยเมือง Melbourne อีก ฝากติดตามด้วยนะคะ

บ๊ายบาย

ต้นอ้อ high on dreams :}

ทริปออสเตรเลียเมืองอื่นๆ
- รวมที่เที่ยว Brisbane https://www.highondreams.com/travel/20thingstodoinbrisbane-บริสเบน/ 
- Moreton Island , Brisbane https://www.highondreams.com/travel/moretonisland/ 

Hello

TEST 1

FOLLOW ME

More Stories
10 เหตุผลที่ผู้หญิงไม่ควรไป “เที่ยวคนเดียว”