ISTANBUL , TURKEY | รีวิวอิสตันบูล ประเทศตุรกี มาทีเดียวได้เที่ยวสองทวีป

“อิสตันบูล ISTANBUL” 

ไปเที่ยวเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี อยากบอกว่าคุ้มอะ  มาทีเดียวได้เที่ยวถึงสองทวีป คือยุโรปและเอเชีย นี่ก็เลือกพักฝั่งยุโรปอย่างเดียวเลยจ้า จะได้เอาไปเม้าได้ว่า ชั้นไปยุโรปมาแหละแกร แถมไม่ต้องใช้วีซ่าด้วยนะว้อยยย 555

เราเดินเล่นเที่ยวเล่นในอิสตันบูลรวมๆ 4 วันสบายๆ ไม่ทั่วเมืองหรอก เพราะไม่อยากเหนื่อยไป มันเป็นเมืองที่มีสเน่ห์มากนะ ทั้งบ้านเรือน ทั้งวิว ทั้งผู้คน เดินทางสะดวก ค่าครองชีพไม่แรง เคบับอร่อย สถานที่ท่องเที่ยวมีสตอรี่ ถ้ามาแบบมีความรู้ก็จะสนุกมาก และแอบไปอาบ อบ นวด ตุรกีมาด้วย เค้าว่าเป็นต้นตำรับอาบอบนวดของไทย 555

มาๆ นั่งลงก่อน  จะค่อยๆเล่าให้ฟัง

INDEX

คอนเท้นต์ซีรีส์ ตุรกี นี้ จะมีทั้งหมด 7 ตอน แบ่งเป็นเมืองๆ จะได้อ่านง่าย เซิร์ดหาได้ง่ายๆ เป็นการเที่ยวเองทั้งหมด ไม่ซื้อทัวร์ เช่ารถขับบางเมือง เพราะขี้เกียจขับตลอดเวลา ครึ่งทริปแรกจะไปเมืองท่องเที่ยวเด่นๆที่คนมาเที่ยวตุรกีต้องไปแน่ๆ เช่น Istanbul / cappadocia / pamukkale ส่วนครึ่งทริปหลังเป็นการเดินทางแบบเอาแต่ใจ อยากเห็นเมืองที่คนไทยไม่ค่อยไป travel off the grid ไปขับรถเลาะถนนริมทะเล สามารถกดอ่านรายละเอียดแต่ละตอนได้เลยจ้า

BANGKOK – KUWAIT – ISTANBUL

ด้วยความที่เลือกมาประเทศนี้เพราะเจอตั๋วโปรพอดีอะเนาะ สายการบินคูเวตแอร์ บริการ Full service ในราคา ซื้อขาไป ฟรีขากลับ อาหารเครื่องดื่มฟรี แต่ไม่มีแอลกอฮอล เวลาต่อเครื่องได้เช็คอินที่คูเวตมันก็จะคูลๆหน่อย  แต่อย่าบอกใครไป ว่ารอต่อเครื่องนานจนหลับเต็มอิ่มอะ 555

ส่วนวิวบนเครื่องบินคือไม่อยากให้พลาดเลย สวยชิบหาย  บินผ่านอิรัก ผ่านเมืองแบกแดด  แต่ผ่านซีเรียไม่ได้เดี๋ยวโดนยิง ต้องบินอ้อมเอา แล้วค่อยเข้าตุรกี 

*ใช้เวลาจากกรุงเทพไปคูเวต 7 ชั่วโมง รอต่อเครื่องที่สนามบิน 7 ชั่วโมง และบินจากคูเวตไปถึงอิสตันบูล อีก4 ชั่วโมง

นี่เมืองคูเวตจากบนฟ้าอะแกรร ดูเป็นเมืองที่แห้งมากกกก แต่นางติดทะเลนะ

วิวระหว่างทาง จากคูเวตไปอิสตันบูล

การเดินทางภายในเมืองอิสตันบูล

จากสนามบินเข้าเมืองอิสตันบูลแบบง่ายๆ และประหยัดสำหรับพวกเรา คือ จะมี Airport Shuttle Bus จอดรออยู่ที่ทางออกโดยปลายทางของบัสคือ Taksim Square ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ราคา 12TL (ข้อมูลปี 2018)

ส่วนการเดินทางภายในตัวเมืองก็ง่ายมาก แค่มีบัตร Istanbulkart สามารถกดได้จากตู้หน้า Tram เลย ค่าบัตร 10TL และเติมเงินอีกแล้วแต่จะเติม สามารถใช้บัตรร่วมกับเพื่อนได้(ถ้าไม่ได้แยกทางกัน) ค่าเดินทางประมาณ 3TL ต่อรอบ ที่นี่จะมีทั้ง Tram รุ่นใหม่ และรุ่นเก่าแต่เก๋า ขับช้าๆระยะสั้นๆ เอาไว้นั่งเล่นถ่ายรูปเฉยๆ แบบที่เดินเอายังเร็วกว่า

ตรงไหน Tram ไม่ผ่านก็นั่ง Taxi เอา ราคาสต๊าทสำหรับนักท่องเที่ยวคือ 20TL เรียก Uber ก็ได้ แต่เราเรียกแล้วโดนเมินตลอดเลย คุยกันไม่รู้เรื่อง ไม่ยอมมารับ แง๊ ทริปนี้เลยเดินเยอะมาก

บัตร Istanbulkart
Airport Shuttle Bus จากสนามบินเข้าเมืองอิสตันบูล 12TUR
CLASSIC TRAM บนถนนคนเดินเส้น Taksim Square
UNDERGROUND TRAM ลอดทะลุเมืองจาก Taksim Square tunnel ไป สะพานกาลาต้า
*ค่าเงินตุรกี (Turkish lira) ตอนที่เราไปอยู่ที่ 1TUR ~ 5THB (ปี2018) ลดจากปีก่อนๆกว่าครึ่งหนึ่งเนื่องจากพิษเศรษกิจ และเหมือนตอนนี้(ปี2021)จะเหลือแค่ 3-4THB ต่อ 1TUR แล้ว ทำให้ค่าครองชีพของที่นี่ถูกมากพอๆกับที่ประเทศไทยเลย คนที่นี่เค้าเลยชอบรับเงินดอลล่าหรือยูโรมากกว่าเงิน TUR ของตัวเอง

BUDGET HOTEL

เกณฑ์ในการเลือกที่พักใน Istanbul ของเราคือ 1.ไม่แพง เพราะเก็บตังไปโรงแรมดีๆที่เมืองอื่น 2.โลเคชั่นดี ขอใกล้ๆย่านท่องเที่ยว เดินกลับสะดวก  3.ปลอดภัย มียามหรือมีรีเซฟชั่นอยู่ตลอด และ 4.เดินไป Taksim Square ได้ง่าย เราได้พักในเมืองอิสตันบูล 2 รอบ คือรอบตอนบินมาถึงวันแรก 1 คืน และอีกรอบ 2 คืนก่อนบินกลับกรุงเทพ

  1. Fame Residence Pera, Taksim

จองจาก Booking.com ในราคาคืนละประมาณ 700 บาท จำไม่ได้ละ เป็นเหมือนตึกแถวที่เอามาแบ่งห้องเป็นโรงแรม ห้องของเราอยู่ชั้น 2 ถือว่าก็ดูสะอาดอยู่นะ โลเคชั่นดีติดถนนใหญ่

2. Taksim Central Residence 2

อันนี้จองแบบด่วนๆ ก่อนบินกลับไทย ราคาไม่ถึงพันเช่นกัน ส่วนทางไปจองนั้น หาไม่เจอแล้วจ้าาา

FIRST DAY IN ISTANBUL

เรามาถึงอิสตันบูลตอนเย็นๆ ตอนแรกกะว่าจะนอนพักเลย แต่พระอาทิตย์ฤดูนี้มันตก 2 ทุ่มหนะสิ ก็เลยอยากออกไปเดินเล่น สำรวจรอบๆก่อน บ้านเมืองแถวๆนี้ก็เหมือนย่านในเมืองทั่วไป ที่มีโซนไฮโซ และโซนที่พักอาศํยก็จะเปลี่ยวๆหน่อย ตอนเดินเล่นก็ต้องระวังตัวและของมีค่าให้ดีๆ 

*เดือนพ.ค. พระอาทิตย์จะขึ้นเร็วและตกช้า ประมาณ 2-3 ทุ่มก็ยังไม่มืด ทำให้มีเวลาเที่ยวเยอะ แนะนำให้มาช่วงซีซั่นนี้

TAKSIM SQUARE 

ที่ที่เราชอบที่สุดเป็นย่าน Taksim Square เราว่าเป็นย่านชิคๆคูลๆ คนแต่งตัวเก๋ๆ คาเฟ่น่ารักๆ และของแบรนด์ท้องถิ่น (แบบดีไซน์เนอร์มาเอง)  อยู่ได้ทั้งวันทั้งคืนเลยนะ พูดจริง ตี 1 ตี 2 ก็ยังคึกกันอยู่เลย ร้านเสื้อผ้ายังเปิดอะ นี่ก็ช๊อปเพลินตั้งแต่วันแรก  ชุดที่เห็นๆในทริปนี้ ส่วนใหญ่ก็มาจากการช๊อปปิ้งที่นี่แหละ 555 พวกร้าน SARA / Forever21 / local brand มีแบบที่ไม่มีขายที่ไทย มีไซด์ให้เลือกเยอะกว่า

มีถนนคนเดินเส้นหลัก ยาวประมาณเกือบ 2 กิโล คนเดินกันขวักไขว่ตลอดทั้งวัน  มี CLASSIC TRAM วิ่งผ่านตรงกลาง กลายเป็นสัญลักษณ์ของ Taksim Square ไปแล้ว

เลี้ยวออกจากเส้นหลักก็ยังมีเส้นรอง มีตรอก ซอกซอย มุมลึก มุมลับ เยอะมาก แล้วในพวกซอยเล็กๆ ก็ชอบมีร้านน่ารักๆ ซ่อนอยู่ 

หอคอยกาลาต้า | GALATA TOWER

จากที่พักเราเดินมาที่หอคอยกาลาต้า (Galata tower) ได้ด้วย อยู่ในย่าน Taksim นั่นแหละ หลังจาก Landing มาสดๆร้อนๆ มาเจอวิวแบบนี้ คือลืมเหนื่อยเลยอะ แสงสวยมาก แต่ขอบอกว่าคนบนนี้เยอะมากๆ เพราะนักท่องเที่ยวนิยมมาดูพระอาทิตย์ตก ก็เหมือนกับเรา

หอคอยกาลาต้าเป็นหอคอยทรงหลอดสูง 66 เมตร ตั้งอยู่บนเนินสูง ทำให้สามารถมองเห็นวิวเมืองอิสตันบูลมุมสูงที่สวยงามมากๆ ถือเป็นแลนด์มาร์คแห่งหนึ่งของอิสตันบูล โดดเด่น มองจากมุมไหนของเมืองก็เห็นหอคอยนี้

Open/Close : everyday 8.30am-midnight
 Entrance fee : 45TL
 Location : https://goo.gl/maps/9SLBCGx5zqMdUm6x9
Galata tower, Istanbul

บนนี้ ชมวิวได้ 360 องศา เราจะเห็นช่องแคบบอสฟอรัสขั้นกลาง ฝั่งตรงข้ามเป็นฝั่งเอเชีย  ส่วนฝั่งที่เรายืนอยู่เป็นฝั่งยุโรป อาคารบ้านเรือนเค้าหนาแน่นมากนะ แต่พอมันอยู่บนเนินลดหลั่นกันแล้วรู้สึกว่าแต่ละบ้านจะได้เห็นวิว ได้รับอากาศและแสงจากภายนอก เราว่ามันทำให้ดูเป็นเมืองที่หน้าอยู่

สะพานกาลาต้า GALATA BRIDGE

จากหอคอยกาลาต้า จะมองเห็นสะพานกาลาต้า จากสะพานก็มองเห็นหอคอยเช่นกัน จากหอคอยสามารถเดินต่อ Tram มาได้ค่ะ ที่นี่มีชาวตุรกีมาตกปลากันเยอะ ทั้งวันเลย ช่วงเย็นๆ ก็จะมีคนออกมาดูวิว ดูพระอาทิตย์ เดินเล่นรอบๆ ช่วงที่เรามา อากาศเย็นๆ 25 องศา บรรยากาศดีทีเดียว เราสามารถนั่งเรือชมช่องแคบบอสฟอรัสจากแถวนี้ได้

มานั่งเล่นนั่งชิลอยู่ตรงนี้คือฟิลดี รักเลยยย

บริเวณใต้สะพานมีร้านอาหารเยอะ แต่ที่ไม่อยากให้พลาดเลยคือ Fish burger ร้านที่อยู่ข้างท่าเรือตีนสะพานฝั่งตรงข้าม galata tower มันมีหลายๆร้านติดกันแหละ ต้องต่อคิวซื้อ ลองสุ่มมาร้านนึง อร่อยเฉยยยย ก็เลยอยากแนะนำ

Location :  https://goo.gl/maps/bwG1pXVoLiQ6PfLp9

ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส | Bosphorus Cruise, Istanbul

จากสะพานกาลาต้า จะมีท่าเรือสำหรัลการล่องเรือชมช่องแคบ Bosphorus คือ must do ของการมาเที่ยว Istanbul เลย เพราะมันคือเมือง 2 ทวีป ล่องเรือไปชมวิวไป ฝั่งยุโรปด้านซ้าย ฝั่งเอเชียด้านขวา ถ้าโชคดีจะเจอโลมาด้วย แต่เรามากับดวงไง ดวงเราคือไม่เจออะไรแบบนั้นหรอก 555

  • Public ferry ใช้เวลาล่อง 1.30-2 ชม. สามารถเดิน walk in ไปที่สะพานกาลาต้า ซื้อตั๋วที่บูสเรือได้เลย หรือไม่ก็จะมีคนเดินมาขายเอง มีเรือเป็นรอบๆ ราคาเริ่มต้นที่ 10TL 
  • Location : ท่าเรือที่เราขึ้น https://goo.gl/maps/bwG1pXVoLiQ6PfLp9
  • ทริปล่องเรือนี้จะมีให้เรือหลายรูปแบบ ทั้งแบบ Private yatch / dinner cruise / public ferry สามารถดูรายละเอียดได้ที่ https://istanbeautiful.com/istanbul-bosphorus-cruise/

เอาจริงๆ เราชอบเมือง Istanbul มากๆเลยนะ ตอนแรกคิดว่าจะน่าเบื่อ แต่เท่าที่เดินเล่นมามันกลับน่าอยู่มากกว่า ไม่อยากแค่เที่ยวแล้วอะ อยากมาอยู่เลย อากาศดี เมืองดี และผู้ดี

Dolmabahce Palace , Istanbul

มาถึงวันเที่ยวเก็บแลนด์มาร์คแล้ว ยกให้ทั้งวันเป็นวันของการเที่ยว พิพิธภัณฑ์ สุเหร่า มัสยิด พระราชวัง ตั่งต่าง  และเราจะเริ่มกันที่พระราชวังดอลมาบาเช่ นั่ง Taxi จาก ที่พักใน Taksim Square ไปไม่ไกล 

พระราชวังดอลมาบาเช่ พระราชวังสีขาวสไตล์ Baroque ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบอสฟอรัส ถ้าได้เข้าไปถ่ายข้างในคงน่าจะสวยมาก นี่แค่ประตูพระราชวัง ก็มีความสวยงามสมคำล่ำลือจริงๆ แต่อดเข้าเพราะมันปิดวันนี้จ้าาา 

  • Open/Close : 9am-6pm ปิดทุกวันจันทร์. 
  • Entrance fee : 90TL to the main palace /.+60TL to Harem / +120TL to clock tower / combine ticket 150TL (update2021)
  • Location : https://goo.gl/maps/1S9oM4vHoMJvm6gP9

Blue Mosque , Istanbul

นั่ง Taxi มาต่อที่ Blue mosque  มาถึงตั้งแต่ 11 โมง ก็ถ่ายรูปถ่ายอะไรไปเรื่อยรอบๆมัสยิด พอจะเข้าไปข้างในปุ๊ป เจอป้ายปิดตอน 12.15 จ้าาาา เปิดอีกทีบ่าย 2 นี่อยู่ข้างนอกทำอะไรอยู่เป็นชั่วโมงเนี่ยยย 55 (ปัจจุบันนี้ 2021 บลูมอสไม่ได้มีลิมิตเวลาเข้าแล้ว สามารถเข้าได้ทุกวัน 9am-7pm) วันสุดท้ายของทริป เลยแวะมาอีกที เพื่อให้ภารกิจเสร็จสมบูรณ์ ข้างในเค้าซ่อมบำรุงกันอยู่จ้าาา โชคดีที่นี่เข้าฟรี

Blue Mosque หรืออีกชื่อว่า Sultan ahmet Mosque คนไทยเรียกว่า สุเหร่าสีน้ำเงิน ได้รับการขนานามว่าเป็นมัสยิดที่สวยที่สุดในตุรกี และที่สุดในโลกด้วย

  • Open/Close : everyday 9am-7pm (update2021) 
  • Entrance fee : FREE
  • Location : https://goo.gl/maps/X4BqxZAUXWKRnEPj7
  • Avoid weekends & Friday prayer at noon if possible, as it will be more crowded with the locals.

เอาจริงๆ ยังแอบสงสัยอยู่ว่าทำไมถึงเป็นสีน้ำเงิน เจอแต่สีแดง แต่ยอมรับเลยว่าดีเทลข้างในสวยมากๆๆๆๆ ผนังสวย ลายสวย คู่สีสวย  ลายพวกนี้แหละที่เค้าชอบตัดทอนไปใส่ในของที่ระลึก เหมาะมาก สวยสมเป็น Turkish style

HAGIA SOPHIA MUSEUM

ตรงข้ามกับ Blue mosque คือ HAGIA SOPHIA MUSEUM ความอลังการของที่นี่คือโถงอาคารอันกว้างใหญ่ เคยเป็นโบถส์คริสต์และสุเหร่าอิสลามมาก่อน สัญลักษณ์ต่างศาสนาถูกโบกทับกันไปมา เดี๋ยวเป็นโบสถ์ เดี๋ยวเป็นมัสยิด สลับกัน ทะเลาะกัน ในปี 1934 รัฐบาลเลยจัดการแก้ปัญหาให้ Hagia Sophia เป็น Museum ซะ ให้คนทั่วไปทุกคนสามารถเข้ามาชื่นชมได้ เป็นประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจมาก  

update : ปัจจุบัน Hagia Sophia เพิ่งถูกประกาศให้เป็นมัสยิดอีกครั้ง เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2020 อ้าวววว

  • Open/Close : everyday  (update2021)
  • Entrance fee : FREE (ตอนเป็น museum ต้องเสียค่าเข้า)
  • Location : https://goo.gl/maps/X4BqxZAUXWKRnEPj7
  • * Avoid weekends & Friday prayer at noon if possible, as it will be more crowded with the locals.

แต่ความซวยคือ วันที่เรามา ครึ่งของโถงอาคารกำลังซ่อมบำรุงจ้าาา เอาน่ะ คิดว่ามาจ่ายค่าเข้าพิพิธภัณฑ์ช่วยให้ซ่อมบำรุงเสร็จเร็วๆแล้วกัน

ภาพโมเสกพระเยซูที่ถูกปูนโบกทับ
ป้ายสัญลักษณ์ศาสนาอิสลาม ที่นำมาติดทีหลัง ในขณะที่บนเพดานยังมีภาพเขียนของเยซูอยู่
ถ้าใครชอบงานโมเสก น่าจะชอบที่นี่ ละเอียดยิบ และมีสตอรี่

ร้านข้าวโพดปิ้งคิ้วๆ ที่เป็นจุดศูนย์กลางระหว่างสถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมดของวันนี้ อาคารด้านขวาคือ Hagia Sophia

Basilica Cistern , Istanbul

ที่นี่มาแบบงงๆ เพราะวันนี้ยังพอมีเวลาเหลืออยู่ สามารถเดินเท้าจาก Hagia Sofia และ Blue Mosque มาได้ Basilica Cistern เป็นโถงกักเก็บน้ำใต้ดินในสมัยโรมันไบเซนไทน์ ลองนึกดูในยุคนั้นต้องกักเก็บสำหรับคนทั้งเมืองใช้ที่ชั้นใต้ดิน ซึ่งโถงนี้ขนาด กว้าง x ยาว 140×70 เมตรเลยทีเดียว สามารถเก็บน้ำได้กว่า 1 แสนตัน เสาโรมันสูง 9 เมตร จำนวน 336 ต้น 

Location : https://goo.gl/maps/czvMeCJ187jULpfC6 

แต่ความพิศดารของที่แห่งนี้คือใครที่ไหนวะ มาสร้างหัวเมดูซ่าไว้ที่เสาอยู่สองต้นในนั้น อย่างที่รู้กันตามตำนานที่ว่าใครที่ได้สบตาเมดูซ่า จะต้องคำสาปให้กลายเป็นหิน หัวเมดูซ่าบนเสาต้นนั้นจึงถูกหมุนให้กลับด้านแทน เพื่อใม่ให้คนจ้องกลายเป็นหิน

Grand Bazaar , Istanbul

เดินต่อมาอีกที่แกรนด์บาร์ซ่า ตลาดที่ใหญ่ที่สุดในตุกี โดยคนตุรกีก็เคลมว่าเป็นตลาดในร่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก มาแล้วรับรองว่า หลง หลง หลง ใครมาไม่งง ให้มันรู้ไปฮะ แกรนด์ บาซ่าร์ กว้างใหญ่และมีหลายซอย เป็นซอยที่หน้าตาคล้ายๆกันด้วย มีของฝากเยอะมาก กว่า 4000 ร้านค่ะแม่ 

เรามาวันแรกมาเดินดูของก่อน กะว่าวันสุดท้ายก่อนกลับไทยจะไปเหมาของฝาก… นั่นแหละค่ะ เพราะเรามากับดวง ขากลับไปแกรนด์บาซ่า แต่เพิ่งพบว่าปิดวันอาทิตย์ อดจ้าาา

  • Open/Close : 10am-6pm ในเว็บบอกเปิดทุกวัน แต่เราไปวันอาทิตย์ ปิดค่ะ
  • NO Entrane fee
  • Location : https://goo.gl/maps/c1ArHp4AFnLtZMZt9

ของฝากจากตุรกีที่เราชอบสุดคือ ที่รองแก้ว ลายสวยสมเป็นตุรกีสไตล์ คล้ายๆลายตามผนังโบสถ์ มัสยิด มีขายอยู่ทั่วเมือง

ในนี้มีคาเฟ่เล็กๆนึง ประทับใจเรามาก ของน่ารัก ตกแต่งน่ารัก งานคร๊าฟท้องถิ่นมาเต็ม ชื่อร้าน Einili Cafe ทั้งร้านตกแต่งด้วยงานคร๊าฟ งานทำมือในสไตล์ตุรกี สิ่งที่เราทำคือเสพย์มันอย่างช้าๆ นั่งจิบชาตุรกีสวยๆในร้าน คิดตังเจอค่าชาแก้วละ 80 บาทค่ะ บรัย

ของฝากที่ไม่รู้ว่าคืออะไร รู้แต่ว่า สวยดี และอยากได้จัง แล้วก็ซื้อมา

*มันคือสายคล้องแว่นแหละ แต่จะเอามาคล้องอย่างอื่นก็ได้เช่นห้อยโทรศัพท์ สร้อยคอ หลายๆสายรวมกันก็เป็นมู่ลี่ได้ (ถ้าเงินถึง)

Salt Bae Steak

อะแถม ภาพหน้าร้านสเต็กของ Salt Bae ภายใน Grand Bazaar มีหุ่นขี้ผึ้งเจ้าของร้าน Nusret ตั้งอยู่ด้วย ถ่ายเซ้ลฟี่นางตรงนี้ก็ได้จ้า ยังไม่มีเงินเข้าไปกินร้านนาง 555

TURKISH TEA

มาตุรกีถ้าไม่กินกาแฟเค้าว่าให้สั่งเตอกิสที (Turkish tea) ละที่นี่มีคาเฟ่เยอะมาก เราเป็นพวกไม่กินกาแฟแต่ชอบเสพย์บรรยากาศของร้านกาแฟไง วันๆก็เลยกินแต่ชา อาหารเช้ากับชา บ่ายก็ชา เหนื่อยก็ชา คิดอะไรไม่ออกก็ชวนกันไปนั่งคาเฟ่กินชา

แก้วชาที่นี่ไม่เหมือนใคร เป็นทรงกะเปาะเพื่อเวลาดื่มชา เศษชามันจะไม่เข้าปากมาด้วย มันจะติดอยู่ในกะเปาะแก้วนั้น เสริฟชาคู่กับซองน้ำตาล เราชอบหวานๆ รู้สึกสดชื่นมีแรงดี

นอกจากร้านชา ก็มีแอบเข้าร้านกาแฟล้วนๆ บ้าง เพราะเห็นบาริสต้าหน้าตาดี 555 ไม่มีชาให้สั่งก็ยอมสั่งเมล็ดกาแฟแบ่งขาย โดยใช้ข้ออ้างว่าซื้อไปเป็นของฝากเพื่อน  55555

TURKISH BATH

สิ่งที่เราประทับใจจนทุกวันนี้คือ TURKISH BATH หรือเรียกแบบภาษาตุรกีคือ Hamami

เป็นการอาบน้ำแบบมีคนอาบให้ หรือจะว่าไปมันคือต้นกำเนิดของ อาบ อบ นวด 

อย่าเพิ่งตกใจไปนะ  อาบ อบ นวด ที่นี่คืออาบจริง อบจริง นวดจริง ไม่ใช้อาบอบนวดประยุกต์แบบที่ไทย เป็นวัฒนธรรมท้องถิ่น ที่เค้าทำกันมานานแล้ว แล้วการอาบที่นี่มันก็ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกอะไร เหมือนๆกับที่เราไปญี่ปุ่นแล้วไปแช่ออนเซ็นนั่นแหละ ที่นี่เค้าเปลี่ยนจากแช่น้ำร้อน เป็นการนอนบนโต๊ะหินอ่อนร้อนแทน

ขั้นตอนคล้ายๆกับแช่ออนเซ็นญี่ปุ่นเลย แก้ผ้าหมด มี Turkish towel ให้ 1 ผืนมาปิดตัวไว้เผื่อเขิล แล้วไปซาวน่าซัก 10 นาทีให้เหงือออก ขึ้นไปนอนบนโต๊ะร้อน โต๊ะนี่คือใหญ่มากๆ ใหญ่เท่าห้องนึงอะ เลือกมุมโต๊ะดีๆ แล้วเอาตัวไปนาบ พลิกไปพลิกมา ให้ความร้อนโดนตัวเราทุกด้าน เหมือนเอาตัวเองไปปิ้งอะ 555

โต๊ะหินร้อนเนี่ยเค้าว่าช่วยเรื่องการไหลเวียนของเลือดในร่างกายด้วยนะ มันดีต่อร่างกาย

ซักพักจะมีพนักงานเข้ามาขัดตัวให้ด้วยผ้าขนหนูใหม่อย่างดี และใส่โฟมนุ่มๆทั่วร่างกาย ตอนนี้สบายมากๆขอบอก ตอนขัดอาจจะแสบๆหน่อย แต่มันส์ เหมือนขี้ไคล หนังกำพร้า หลุดไปหมดเลย ส่วนสระผมกับนวดจะเป็น Option เสริม จะเอาก็ได้ไม่เอาก็ได้ ของเราเลือกแบบฟูลเซอวิส อาบน้ำ สระผม นวดตัว นวดหัว โคตรสบาย โคตรสะอาด

เออ Turkish Bath มีทั้งแบบห้องรวมและห้องแยกชายหญิง  เราเดินเข้ามาด้วยการเลือก Hamami ที่ใกล้เราที่สุด  เพิ่งรู้ตอนเข้ามาแล้วว่ามันเป็นเป็นห้องรวม ก็นุ่งกระโจมอกนาบโต๊ะไปค่ะ ส่วนตอนนวดพนักงานผู้หญิงจะพาไปในห้องแยกอีกที

เป็นประสบการณ์ที่จะไม่ลืมเลย

ผ้าขนหนูขัดตัวใช้แล้วทิ้ง เปลี่ยนอันใหม่สำหรับทุกคน นี่เลยขอเก็บไว้เป็นของที่ระลึก จากการ Turkish Bath ครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิต 555 ฉันก็คือเพิ่งอาบน้ำมาด้วยนะ ยังดำขนาดนี้อะ

NIGHTLIFE IN ISTANBUL

ถ้าถามว่าอิสตันบูลมีอะไรให้ทำอีก นอกจากเก็บแลนด์มาร์คทางประวัติศาสตร์ เราชอบเดินเล่นในเมืองที่เค้าอยู่กันจริงๆมากกว่า  ได้เห็นว่าเค้าใช้ชีวิตกันยังไง หรือทำอะไรกิน ตอนกลางคืนไปไหนกัน อะไรอย่างงี้ฮ่าๆๆ  บวกกับพระอาทิตย์ตกช้า 2 ทุ่มยังสว่างอยู่เลย เราก็เลยรู้สึกว่าได้เที่ยวคุ้มมาก กลับหลังเที่ยงคืนทุกวัน บ้าบออ

จริงๆแล้วอิสตันบูลยังมีอะไรให้ทำอีกเยอะนะ ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะชอบ อยากแวะมาแค่แป๊ปเดียว แล้วไปเที่ยวเมืองอื่นดีกว่า แต่สุดท้ายก็ติดใจ ติดใจแบบอยากย้ายมาอยู่เลยอะ ชอบเมืองเก่า ชอบศิลปะ ชอบคน เปิดตอนกลางคืน 

เสียดายอย่างเดียว อาหารไม่ค่อยโดน ที่อยู่รอดตลอดทริปนี้ ต้องขอบคุณเคบับเป็นอันดับหนึ่ง และหอยข้าวเป็นอันดับสอง 555

เซตเคบับตุรกี เป็นเนื้อแกะและผักแนมเยอะๆ

Mideye dolma  หรือเราเรียกว่า หอยข้าว บีบเลมอนให้หนึ่งเปี่ยง คนขายตั้งโต๊ะเล็กๆขายอยู่ตามหัวมุมถนน เปิดดึก ตี1 ตี2 ก็ยังอยู่ มีเยอะเหมือนรถขายใส้กรอกอีสานบ้านเราอะ แต่ก็อร่อยดีนะ

Mideye dolma  

STREET BAR

ขอปิดท้ายเมืองอิสตันบูลด้วยบาร์ข้างทาง ที่แวะเข้าไปเพราะหนุ่มโบก – –  แต่มันก็ชิลจริงๆแหละ มี turkish tea ชิชา บารากุ เบียร์ และดนตรีสด คิดเงินมาโดนเรียบร้อยครับ 

ค่าชาแก้วละ 70 บาท ค่าดนตรีสด 140 บาท เซอวิสชาร์จ 140 บาท ทั้งหมดเขียนมาให้ดูในบิล ขูดเลือดขูดเนื้อกันเลยทีเดียว แต่มันก็ชัดเจนดี ไม่หมกเม็ดเหมือนรัฐบาลยุคนี้

และนี่ก็เป็นรีวิวรวมๆของเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี ก่อนที่จะบินออกไปเที่ยวเมืองอื่นๆ ซึ่งสนามบินภายในประเทศจะอยู่คนละที่กับที่เราบินมา ต้องเช็คสนามบินตอนจองตั๋วเครื่องบินมาดีๆด้วยนะคะ 

อีกเรื่องที่อยากเสริมคือ สำเนียงตุรกีแอบฟังยากนิดนึง โดยเฉพาะเวลาเรียกชื่อภาษาไทยของเราในสนามบิน เราเข้าเช็คอินและนั่งอยู่หน้าเกตแล้ว แต่สายการบินเปลี่ยนเกต และเราก็ไม่ได้ฟังอะไรเลย นั่งรอเกตเปิดอย่างเดียว ประกาศ Final Call ก็ไม่รู้เรื่อง ทำให้ตกเครื่องไปโดยปริยาย แถมพนักงานเหวี่ยงว่า ชั้นประกาศไปตั้งหลายรอบแล้ว ไม่ได้ยินเอง เอ้าาาา 

ได้รอไฟล์ทถัดไปอีก 6 ชั่วโมงในสนามบิน และไปถึงเมืองถัดไปตอนเที่ยงคืน บ้าบอมากก
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

STORY : ต้นอ้อ high on dreams
PHOTOGRAPHER : ฟาง อารมณ์นิยม

Hello

TEST 1

FOLLOW ME

More Stories
รีวิว “เกาะล้าน” แบบบ้าๆ บอๆ | KOH LARN