THE TUBKAAK KRABI รีสอร์ทพูลวิลล่า ติดทะเลวิวปัง หาดทับแขก จ.กระบี่

เก็บกระเป๋าออกเดินทางไปพักร้อนที่ จ.กระบี่ พักห้องพูลวิลล่าใกล้ทะเลที่สวย สงบ และผ่อนคลายที่สุด ที่ The Tubkaak Krabi Boutique Resort

ทริปนี้เราจะพาไปนอนห้องพูลวิลล่า  นั่งชิลปิกนิกทานขนมและผลไม้บนชายหาด  พร้อมๆกับดูพระอาทิตย์ตกดิน พานั่งเรือ One day trip ไปเที่ยวเกาะห้องล่องทะเลสีมรกต ด้วยเรือหัวโทงเรือสัญลักษณ์ของจังหวัดกระบี่ ที่ตกแต่งมาอย่างดี ทานอาหารใต้จากเชฟมิชลินสตาร์ Romantic Dinner ริมทะเล หรือเปลี่ยนบรรยากาศไปทานอาหารสไตล์อิตาเลี่ยน ที่ Di mare Restuarant ที่ใช้ผักสวนครัวปลอดสารของรีสอร์ทนี่เอง อยากบอกว่า  เป็นทริปพักร้อน 3 วัน 2 คืน ที่่ได้รับความอิ่มอกอิ่มใจ กลับไป อยู่ในรีสอร์ทได้ไม่มีเบื่อเลย

ปล. ตอนนี้โรงแรมมีโปรโมชั่นที่คุ้มมากๆ คือโปรโมชั่น Experience The Tubkaak Krabi เป็นแพ็กเกจ ห้องพัก 3 วัน 2 คืน รวมอาหารเช้า พร้อม เลือกรับสิทธิพิเศษ 2 อย่าง จาก 4 อย่าง ตามนี้ได้เลย

  • รถ รับ ส่ง สนามบินกระบี่ แบบส่วนตัว
  • เซ็ตอาหารเย็นพื้นถิ่น เมนูจาก Chef ระดับ Michelin Star
  • นวดไทย 60 นาทีต่อท่าน ที่ L’escape Spa
  • ทริปล่องเรือหมู่เกาะห้อง แบบ Join Trip ( ไม่รวมเซ็ตปิคนิค)

เนี่ย ขนาดทริปจบไปหลายวันแล้ว ยังคิดถึงบรรยากาศที่นั่นอยู่เลย
ปะ ไปดูภาพบรรยากาศ เดอะทับแขก บูทีค รีสอร์ท จ.กระบี่ ในคอนเท้นท์นี้กัน

*จองตรงผ่าน website โรงแรมโดยตรง หรือกดจองผ่านลิงค์นี้ได้เลย https://bit.ly/3wxPA3Z
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร 02 821 6362 , 075 628 456

ABOUT THE TUBKAAK KRABI

ชื่อทับแขกเนี่ย ตอนแแรกได้ยินก็แอบงงๆ ว่าทำไมชื่อแปลก แต่ความเป็นจริงคือเป็นชื่อหาดที่โรงแรมตั้งอยู่ ชื่อว่า “หาดทับแขก”  ในจังหวัดกระบี่ เป็นย่านที่สงบ ใกล้ชิดธรรมชาติ ห่างจากย่านคนพลุกพล่านอย่างอ่าวนางประมาณ 15 กม. อีกทั้งชื่อหาดยังพ้องกับชื่อโรงแรมตรงคำว่า “ทับ” = บ้านพัก, ที่ประทับ และ “แขก” น่าจะหมายถึง Guest แขกไปใครมาก็มาพักบ้านนี้เนอะ เป็นที่พักของแขกทุกๆคน

เราออกเดินทางจากกรุงเทพ ไปสนามบินกระบี่ และให้รถจากรีสอร์ท มารับที่สนามบินเลย ใช้เวลาอีกประมาณ 45 นาที ก็ถึงจุดหมายปลายทางละ  ที่ The Tubkaak Krabi Boutique Resort ตั้งอยู่ที่ หาดทับแขก ต.หนองทะเล 

Check-in

เมื่อเดินเข้ามาถึง Lobby สิ่งที่เราจะสัมผัสได้เป็นอย่างแรกเลยคือความธรรมชาติ โถงอาคารตกแต่งด้วยไม้ หลังคาสูงโปร่ง ลมโกรกโชย เสียงจั๊กจั่นดัง และมองเห็นต้นไม้สีเขียวภายนอกให้ความร่มรื่น มีบรรยากาศความเป็นไทยเบาๆไม่ตะโกน

พี่รีเซฟชั่นเข้ามาต้อนรับด้วย Welcome Drink พร้อมกับ ยาหม่อง Homemade ที่เค้าบอกว่าเป็นสูตรของทางโรงแรมเอง กลิ่นจะไม่ฉุนมาก ใช้ทาใช้ดม รีสอร์ทใกล้ชิดธรรมชาติขนาดนี้อาจจะมียุงหน่อยนะคะ

นอกจากนี้ก็ยังมี ตารางกิจกรรมภายในรีสอร์ทเผื่อเราอยากเข้าร่วมจอยกับแขกอื่นๆ ซึ่งก็มีทั้งโยคะเช้า เดิน Treking ไปเขาหงอนนาค พายคคายัค Paddle board หรือคอสมวยไทย

Exterior

ภายตัวรีสอร์ทจะมีความเขียวชะอุ่ม เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ และใบหญ้า เห็นว่าน้ำที่ใช้รดน้ำต้นไม้ในรีสอร์ทเป็นน้ำที่ต่อมาจากน้ำผุดบนเขาหงอนนาค เป็นน้ำจากแแหล่งน้ำธรรมชาติจริงๆ สะอาด บริสุทธิ์ มีทางน้ำเล็กๆให้น้ำไหลตั้งแต่หน้ารีสอร์ท ลงไปจนถึงบ่อน้ำหน้าชายหาดเลย นอกจากจะได้น้ำไปใช้งานแล้ว ยังทำให้บรรยากาศในรีสอร์ท มีความสดชื่น เย็นสบาย เสียงน้ำไหลตลอดทาง

Swimming pool

สระว่ายน้ำส่วนกลางของรีสอร์ท เป็นทรงฟรีฟอร์ม น่าลงแช่ มีเก้าอี้ชายหาดวางรอบ วันไหนไม่อยากลงน้ำทะเล ก็มาลงที่สระนี้ก็ได้

Beach front

เคยเห็นภาพรีวิว The Tubkaak มาบ้างแล้วว่า วิวสวยขนาดไหน จนอยากมาเห็นกับตาตัวเอง จุดเด่นของที่นี่เราว่าเป็นวิวทะเล ที่มีหมู่เกาะห้องเรียงรายหน้าชายหาด มีเกาะกว่า 13 เกาะวางตัวกระจายกันอยุ่เป็นเลเยอร์ มันทำให้วิวทะเล ของที่นี่ไม่เหมือนที่ไหนๆ 

มีพื้นที่ให้แขกได้ Relax นั่งชิล ชมวิว อ่านหนังสือ อาบแแดด ตามมุมต่างๆ ของรีสอร์ทมากมาย 

SUNSET

ยิ่งฝั่งนี้เป็นฝั่งพระอาทิตย์ตกดินด้วย วันที่ฟ้าระเบิดคงสวยสุดๆไปเลย นี่เราพักที่นี่ 3 วัน 2 คืน อยู่หน้าหาดรอดูพระอาทิตย์ตกทุกวันเลย

Roomtype

มาดูที่ห้องพักกันบ้าง น่าจะเป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจจองทริปพักผ่อนอย่างงี้ The Tubkaak Boutique Resort มีห้องพักทั้งหมด 59 ห้อง 9 roomtype 

  • -Garden Room
  • -Superior Room
  • -Deluxe Room
  • -Seaview Room
  • -Seaview Suite
  • -Premiere Pool Villa
  • -Ocean View Pool Villa
  • -Heaven Suite
  • -Tubkaak Suite

Premiere Pool Villa

ห้องที่เราพัก คือ Premiere Pool Villa ไทป์นี้จะไม่มีวิวทะเลนะ แต่ได้ความสงบ และเป็นส่วนตัวมากๆ วิลล่ากว้างประมาณ 110-130ตรม. ดีไซน์สวย Luxury ที่มีกลิ่นอายความบ้านไม้ไทยนิดๆ แต่ไม่ไทยจ๋า  ล้อมรอบด้วยสวนมีความร่มรื่น  มีเตียงอาบแดดริมสระ2เตียงข้างๆสระว่ายน้ำส่วนตัว จะลงน้ำตอนไหนก็ได้ ชอบมาก และยังมีอ่างอาบน้ำ outdoor หิน Terrazzo ขนาดใหญ่ที่ลงได้ 2 คนในทีเดียว

เราชอบที่มีซิ้งค์ในห้องน้ำมาให้ 2 ซิ้งค์ ไม่ต้องต่อคิว แย่งกันใช้กับเพื่อนดี ของ Amenities มีให้ครบครัน ห้องพักหอม เตียงนุ่มนอนสบาย น้ำไหลแรง คือเพอเฟคละ

Seaview Room

ในคืนที่ 2 เราได้ย้ายไปห้อง Sea view Room ระเบียงเทอเรซหันหน้าเข้าหาดเต็มๆ ดูวิวจากห้องก็สวย เดินผ่านสวน ออกไปแตะพื้นทรายก็แค่ไม่กี่ก้าว เรียกว่าห้อง Beach front Villa ได้เลยแหละ  ห้องนี้ดีไซน์แบบเพดานสูง ให้ความรู้สึกโปร่งโล่งสบาย แสงธรรมชาติส่องทั่วถึง

อ้อ ห้องนี้ก็มีอ่างอาบน้ำ outdoor หิน Terrazzo ขนาดใหญ่เหมือนกัน แยกกับห้องอาบน้ำนะ บรรยากาศดี เหมาะกับมาฮันนิมูลสุดๆ

 Beach Picnic

ถ้าใครอยากเอนจอยบรรยากาศบนชายหาดแบบไม่ลงน้ำ ทางรีสอร์ทเค้ามี Picnic Set ให้บริการด้วย จัดมาเป็นซุ้มพร้อมเบาะนั่งนุ่มๆ มีทั้งขนมและผลไม้เรียงใส่จานมาอย่างดี 

ยิ่งตอนช่วงพระอาทิตย์กำลังจะตกดินนะ ถ่ายรูปมมา มู๊ดดีสุดๆ บรรยากาศก็ดี ยังได้รูปปังๆอีกจ้า

Romantic dinner

ต่อกันด้วย Romantic Dinner บนหาดทราย ใต้แสงเทียน โรแมนติกกว่านี้ไม่มีแแล้ว

อาหารมื้อนี้เป็นอาหารใต้ล้วนๆ ก็มาถึงกระบี่ทั้งทีอะเนอะ  มีผัดสามเหม็น ไข่เจียวใบเหลียง น้ำพริกกะปิ แกงส้ม แต่ที่นี่จะเป็นสูตรของเชฟมิชลินสตาร์ รสชาติไม่ได้จัดจนเกินไป กลมกล่อมกำลังดี แต่ที่มั่นใจได้คืออาหารสะอาด ผักปลอดสารพิษเพราะรีสอร์ทมีสวนผักปลูกเอง 

ปิดท้ายด้วยโรตี ของหวานจานโปรดของทริปนี้ สั่งมาทุกมื้อเลย

The Arundina Restaurant all day dining

พอพูดถึงเรื่องอาหาร เราว่าที่ The Tubkaak ค่อนข้างให้ความสำคัญกับอาหารเลย เพราะแขกที่มาพักล้วนแต่จะทำกิจกรรมอยู่ในรีสอร์ทตลอด ไม่ค่อยออกไปไหน  มีห้องอาหารภายในรีสอร์ททั้งหมด 2 ที่ หลักๆ คือ The Arundina เป็น All day dining สั่งอาหารได้ทั้งวัน รวมถึงอาหารเช้าแบบ Buffet ด้วย

เมนูที่เราชอบสุด คือ หมึกน้ำดำ มันคือน้ำหมึกที่ถูกต้อง เข้มข้น มัน นัว แต่กินละปากดำหน่อยนะ , Seafood น้ำยำวูดู จำชื่อแม่นๆไม่ได้ น้ำวูดูเป็นน้ำยำท้องถิ่นของคนใต้ มาแล้วต้องลองชิม ให้รสชาติเผ็ดเค็มเปรี้ยวหวาน สูสีกับน้ำจิ้มซีฟู๊ดได้อยู่ เออ แล้วอาหารของที่นี่จะใช้วัตถุดิบจากชาวประมงในพื้นที่กระบี่เลยจะได้ทั้งความสด และได้สนับสนุนคนท้องถิ่นด้วย

เซตขนมจีนน้ำยาก็มีนะ จัดเซตม้วนขนมจีนพร้อมขันโตกผักและไข่ต้มมาน่ารักๆ มีน้ำยาแแกงไตปลาข้นๆ และน้ำยาปู ได้ปูมาเป็นชิ้นๆเยอะอยู่ 

BREAKFAST

ไลน์อาหารเช้าที่นี่มีแบบ Buffet เดินตักเองได้ ส่วนใหญ่เป็นอาหารเบาๆ American breakfast สลัด ผลไม้ ผัดผักน้ำมันหอย หรือจะสั่งแบบ A la carte ซึ่งวันที่เราไปมี ก๋วยเตี๋ยวไก่ (อร่อยมาก)  Avocado toast , Eggs benedict etc.

Di mare Italian Trattoria

ส่วนอีกห้องอาหารคือ Di mare Italian restaurant อยู่ติดหาดเหมือนกัน แต่อยู่คนละด้าน มีวิวทะเลสวยมาก เป็นอาหารสไตล์อิตาเลี่ยนแแท้ๆเลย วัตถุดิบดีงาม สั่ง Pizza truffle cheese ก็คือได้เครื่องแน่นๆ หอมมากๆ ได้ยินมาว่าร้านนี้แขกฝรั่งจากที่อื่นก็ตามรีวิวเข้ามาทานกันเยอะ 

Activity 

มาพักที่นี่ไม่ต้องแพลนอะไรเยอะ มาถึงแล้วปล่อยจอยได้เลย ถ้ารู้สึกอยากอยุ่เงียบๆ ก็มีมุมให้สงบจิตสงบใจ ในห้องสมุด หรือในสวนหย่อม หรืออยากออกไปรับแสงแดด ทำกิจกรรม ใช้พลังงาน ทางรีสอร์ทเค้าก็มีหลากหลายสิ่งให้เลือกทำ ไม่ว่าจะเป็น พายคายัคหน้าหาด เข้าคลาสโยคะตอนเช้า คลาสมวยไทย หรือ ทำสปา นวดผ่อนคลาย

ห้องสมุด

L’ESACPE Spa

เราชอบการออกแบบของโซนสปาอะ เหมือนเดินเข้าไปในรังไหม เป็นหมู่บ้านลับที่ไม่เหมือนอยู่ในรีสอร์ท ละห้องสปาแต่ละห้องเป็นเหมือนฝัก Cocoon รอเราเข้าไปฟักตัว ทำสปาเสร็จออกมากลายเป็นผีเสื้อโบยบิน สบายตัวไปอีกหลายวัน

Koh Hong day trip

นอกจากกิจกรรมภายในรีสอร์ทเดอะทับแขก เราสามารถซื้อ One Day trip ออกจากที่พัก ไปล่องทะเลสีมรกตไปชื่นชมหมู่เกาะห้อง ภูเขาหินปูนสูงๆทรงแปลกๆ และลงว่ายน้ำทะเลใสๆ ทางรีสอร์ทจะเตรียมเซตปิกนิกให้พร้อม จะเอาลงไปปูเสื่อปิกนิกบนหาด หรือจะทานอยู่บนเรือก็ได้ฟิลไปอีกแบบ เพราะเรือเค้าเป็นเรือหัวโทง ตกแต่งน่ารัก มีเบาะ มีหมอน พร้อมชิลได้เสมอ  

ภาพตอนล่องเรือสวยๆ มีเยอะมาก เดี๋ยวจะแยกไปอีกคอนเท้นท์นะคะ

ตลอด 3 วัน 2 คืน ที่ The Tubkaak Krabi มันผ่อนคลาย สบายตัว และสบายใจจริงๆ ถ้ามีโอกาสได้กลับมากระบี่อีกครั้ง ที่นี่จะเป็นรีสอร์ทที่คิดถึงอันดับแรกๆ เลย

แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้า
บ๊ายบาย

ต้นอ้อ high one dreams :}

Hello

TEST 1

FOLLOW ME

More Stories
อาหาร วัฒนธรรม สัมผัสชีวิตแบบไทลื้อ ที่บ้านสถาน 2 จ.พะเยา