เก็บกระเป๋าออกเดินทางอีกครั้ง ปลายทางอยู่ที่ หมู่บ้านเล็กๆ กลางหุบเขา ที่เค้าว่ามีอากาศดีตลอดทั้งปี ที่ บ้านป๊อก อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ จะเป็นยังไง ตามไปเที่ยวด้วยกันเลยค่ะ
(มีเวอร์ชั่น VDO ด้วย )
การเดินทางจากเชียงใหม่ไปบ้านป๊อกเนี่ย ใน MAP บอกว่าใช้เวลาแค่ชั่วโมงกว่าๆ เราก็เลยแวะเที่ยวน้ำพุร้อนสันกำแพงด้วย เพราะเป็นทางผ่านพอดี ได้แช่เท้าในน้ำอุ่นๆ เหมือนทำสปาอะ สบายมากๆเลย
ขับรถต่อมาอีกไม่ไกลก็มาถึงแม่ออน จากตรงนี้เนี่ย จะเริ่มขึ้นเขาละ ทางค่อนข้างชัน ถ้าขับรถแข็งก็ขับขึ้นไปหมุ่บ้านได้เลย แต่ถ้าขับไม่แข็งก็บอกให้รถจากที่พักลงมารับก็ได้ เซฟๆ
หมู่บ้านป๊อก ต.ห้วยแก้ว อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่
ชื่อเรียกบ้านป๊อก มาจากการรวมตัวของกลุ่มชาวบ้าน ที่นี่จะแบ่งเป็น 3 กลุ่มป๊อก คือ ป๊อกใน ป๊อกกลาง และป๊อกนอก อาชีพหลักคือปลูกเมี่ยง (หรือใบชา) กาแฟ และกำลังพัฒนาด้านการท่องเที่ยว บ้านป๊อกตั้งอยู่กลางหุบเขา มีความสูงจากระดับน้ำทะล 1500 เมตร ทำให้ที่นี่มีอากาศเย็นตลอดทั้งปี มีที่พักสวยๆดีๆ และโฮมสเตย์อยู่แถวนี้เยอะเลย
วัดจอมคีรี
วัดประจำบ้านป๊อก ตั้งอยู่บนเนินเขา มองเห็นวิวหมู่บ้านป๊อกใน มีประวัติยาวนานตั้งแต่สมัยล้านนา ถ้าอยากรู้อะไรเพิ่มเติมให้ถามหลวงพ่อได้ หลวงพ่อใจดี ให้ยันต์มาคนละอัน สาธุค่า
The Giant
มาถึง The Giant คาเฟ่ชื่อดัง ตั้งอยู่ระหว่างทางไปบ้านป๊อก ที่นี่เหมือนเป็นประตูหมู่บ้าน ใครไปใครมาก็ต้องผ่านที่นี่ก่อน ไจแอ้นเป็นคาเฟ่บนต้นไทรป่าต้นใหญ่ที่มีอายุกว่า 200 ปี ยิ่งใหญ่มากๆ และจะใหญ่ขึ้นทุกๆปี
เราชอบตรงทางเดินเข้าร้านต้องเดินผ่านสะพานเชือก ตอนมันสั่นก็เสียวๆอยู่เหมือนกัน เข้ามานั่งชิล นั่งชมวิวใต้ร่มไม้ใหญ่กันได้ เอ้อ อย่าลืมว่าที่นี่เปิดแค่วันเสาร์อาทิตย์นะ
บ้านป๊อกวิวงาม โฮมสเตย์
บ้านป๊อกวิวงาม คือโฮมสเตย์ที่เราจะพักในคืนนี้ แก ที่นี่วิวงามสมชื่อเลย มีทิวเขาเป็นเลเยอร์สลับซับซ้อนหลายชั้น จนนับยอดเขาได้ไม่ถ้วน
ในส่วนของห้องพัก จะอยู่ที่ชั้นล่างของทางเข้า เป็นห้องพัดลม มีน้ำอุ่น ผนังปูนทาสีขาวดูสะอาดตา และระเบียงไม้หน้าห้องอย่างชิลเลย
แม่เกสรกับพ่อสมพงษ์เจ้าของโฮมสเตย์ต้อนรับเราอย่างอบอุ่น ด้วยชาร้อนๆ หอมๆ ที่ปลูกอยู่หลังบ้านและยังเป็นผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของบ้านป๊อกด้วย โชคดีที่มีโอกาสได้ดูขั้นตอนการทำชา ตั้งแต่เก็บใบสดๆ ตั้งเตาเคั่ว และก็ตากแห้ง จนกลายเป็นชาแก้วที่เราดื่มอยู่นี่แหละ
ผลิตภัณฑ์ประจำหมู่บ้านป๊อก นอกจากชา ก็ยังแปรรูปได้อีกเป็นหมอนใบชา ที่สามารถดูดกลิ่นอับต่างๆ วางในห้องหรือในรถก็ได้ เรียกว่าต้นชาต้นนึงเนี่ยใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วนเลย
กาแฟบ้านป๊อก
อีกของดี คือ กาแฟบ้านป๊อก อยู่ในแพคเกตจิ้งพร้อมดริป ดื่มได้เลย หรือจะซื้อไปเป็นของฝากให้เพื่อนก็ได้ ของเค้าดีจริง เพราะเป็นสายพันธุ์อาราบิก้าแท้ ถูกปลูกในพื้นที่มีสภาพอากาศที่เหมาะสม ดินดี น้ำดี แถมเค้ายังมีโรงคั่วที่ได้มาตรฐานเป็นของตัวเอง
ขันโตกดินเนอร์
ตอนเย็น แม่ทำเซตอาหารเมืองเสริฟใส่ขันโตกมาให้ลองชิม มีไข่ป่าม ผัดยอดมะระ ไข่เจียวสมุนไพร ยำใบเมือง และใบเมียงทอด เปิดโลกอาหารเหนือสุดๆ เพราะปกติก็ไม่เคยจะได้กินอะไรอย่างนี้ ลำแต๊ๆ เจ้าาา
SUNSET
กิจกรรมอีกอย่างหนึ่งที่นี่คือดูพระอาทิตย์ตกดิน สวยมากๆเลย พอเริ่มมืด ก็เห็นไฟระยิมระยับจากเมืองเชียงใหม่อยู่่ไกลๆ
Good Morning
วันที่ 2 จริงๆต้องตื่นมาดูทะเลหมอก แต่ตื่นไม่ทัน เพราะอากาศดีเกินไป หลับยาวเลย 555 ตื่นทันแค่ข้าวต้มที่แม่ทำไว้ให้ตอน 7 โมง
ตอนเช้าอากาศเย็นๆ มีเสียงนกร้องอยู่หน้าห้อง บรรยากาศแบบดี๊ดี
เดินป่า
ในช่วงเช้า เรามีนัดกับพ่อหลวงไพบูลย์หรือว่าผุ้ใหญ่บ้าน จะพาไปเดินป่า สำรวจธรรมชาติบ้านป๊อกกันซักหน่อย เราจะเดิน 2 เส้นทาง คือที่แรกไปจุดชมวิวผาเยือง และที่ถัดมาคือน้ำตกย่าจันทร์ เส้นทางเดินไม่ยากค่ะ เตรียมแค่รองเท้าผ้าใบกับเสื้อแขนยาว แล้วก็พกน้ำเปล่าไปก็พอ
ผาเยือง
พ่อหลวงขับรถพาพวกเราไปจนถึงทางขึ้นจุดชมวิว ทางไปโหดอยู่เหมือนกันนะ ต้องใช้รถ4วีล เส้นทางนี้พ่อหลวงบอกว่าเป็นทางเข้าหมู่บ้านป๊อกสมัยก่อน ตอนนี้ไม่ค่อยใช้ละ มันชันเกิน
ลงจากรถต้องเดินต่อไปอีกแค่ 300 เมตร เลาะไปตามสันเขา ไปจนถึงแนวหน้าผาหิน ที่เค้าเรียกว่าผาเยือง ตรงจุดนี้เนี่ย เราจะมองเห็นวิวภูเขาเป็นชั้นๆ กว้างไกล เห็นบ้านป๊อกวิวงามโฮมสเตย์ที่เราพักด้วย
พอได้เห็นป่ากว้างๆ จากมุมสูงอะ มันรู้สึกเหมือนโลกนี้มันใหญ่มากๆ เราก็เป็นแค่ส่วนประกอบเล็กๆของโลก ที่ไม่ได้สำคัญอะไร แล้วถ้าเทียบความเครียดที่เราเจอมา มันก็เล็กกว่าตัวเราอีก
คุณลุงที่เป็นไกด์นำทางบอกว่า จริงๆผานี้มีอีกชื่อว่าผาปลดปล่อย เค้าจะมาที่นี่กันแล้วก็ตะโกนออกมาดังๆริมหน้าผา พอได้ตะโกน ระบายออกมา เหมือนได้ปลดปล่อยความทุกข์ แล้วก็จะสบายใจ งั้นเราขอลองด้วยก็แล้วกัน
น้ำตกย่าจันทร์
ออกมาจากผาเยือง ที่ถัดไปก็คือน้ำตกย่าจันทร์ ซึ่งจุดเริ่มเดินมันอยู่ตรงโฮมสเตย์บ้านป๊อกวิวงามของเรานี่เอง ระยะทางเดินประมาณ 1 กิโล
ระหว่างทางเดินไปน้ำตกย่าจันเนี่ย คุณลุงก็เล่าเรื่องความเป็นมาของบ้านป๊อก และความอุดมสมบูรณ์ของป่าไปด้วย ด้วยความที่หมู่บ้านตั้งอยู่บนพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1500m มีอากาศเย็นตลอดทั้งปี กาแฟกับชาก็เลยเติบโตได้ดี และยังมีสมุนไพรอื่นๆ ปลูกแทรกๆกัน กระจายภายใต้ผืนป่านี้ โดยไม่ตัดต้นไม้เพื่อทำเป็นไร่เป็นสวนเลย เพราะที่นี่เป็นต้นน้ำของแม่น้ำหลายๆสายในเชียงใหม่ การเก็บต้นไม้ไว้จึงเป็นเรื่องสำคัญ เป็นการอยู่ร่วมกับป่า อยู่กับธรรมชาติ ได้อย่างยั่งยืน
เดินต่อไม่นานก็ถึง น้ำตกย่าจันทร์ เป็นน้ำตกที่ไม่ใหญ่มาก มีความสูงประมาณ 50 เมตร ช่วงนี้น้ำกำลังเยอะเลย (เดือนกรกฎาคม) หน้าน้ำตกจะมีสะพานไม้เล็กๆ สามารถเดินเข้าไปใกล้ๆได้อีกนิดนึง แต่ต้องระวังลื่นด้วยเนอะ พอเดินมาเหนื่อยๆ ได้เอาเท้าจุ่มน้ำเย็นๆ แถมยังมีละอองน้ำตกกระทบหน้า นี่มันฟินจริงๆ
เที่ยวบ้านป๊อก 2 วัน 1 คืน ในครั้งนี้ ได้มาสัมผัสอากาศเย็นๆ ได้นั่งมองวิวสวยๆ ได้มาชิมอาหารบ้านๆ ชาหอมๆ และกาแฟอารมณ์ดี ได้เห็นพื้นที่ที่ธรรมชาติกับมนุษย์อยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน ใครที่ชอบเที่ยวธรรมชาติ ชอบความโลคอล ห่างไกลแสงสีสิวิโล แต่ก็ไม่ลำบากจนเกินไป ยังสบายๆ บ้านป๊อกก็เป็นอีกตัวเลือกนึงที่อยากให้ลองมา
แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้าค่า
ต้นอ้อ :} high on dreams
