นั่งรถไฟไปจีน สู่เมืองสิบสองปันนา 🇨🇳 XISHUNGBANNA-CHINA

นั่งรถไฟข้ามประเทศคนเดียว  ไปเที่ยวเมืองจีน แบบคนที่สกิลภาษาจีน เท่ากับศูนย์ พูดไม่ได้  อ่านไม่ออก ฟังไม่รู้เรื่อง แต่กับจีนเมืองนี้ ทำให้รู้สึกเหมือน… อยู่ไทย

เราจะพาไปเมืองจีน ที่อยู่ใกล้ไทยมากที่สุดละ ก็คือ สิบสองปันนา มณฑลยูนนาน  เมืองที่เคยได้ยินมาว่า  เป็นรากเหง้าของคนไทย และเค้าก็เรียกตัวเองว่า คนไต  มันคล้ายคลึงกับไทย ทั้งเรื่องภาษา  ศาสนา อาหาร สถาปัตยกรรม  ไปจนถึงศิลปะวัฒนธรรม มีงานสงกรานต์เเหมือนที่บ้านเรา มีวัดวาอารามที่่ดูคุ้นเคย  มีคนที่พูดภาษาไทยกับเรา รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง จนบางที ก็ไม่คิดว่ากำลังเที่ยวอยู่ในจีน

ทริปนี้จะเด๋อขนาดไหน  ปะ นั่งรถไฟไปเป็นเพื่อนกันหน่อย  สู่เมืองสิบสองปันนา ประเทศจีน

ความเดิมตอนที่แล้ว

เราออกเดินทางจากประเทศไทย ข้ามเขตแดนลาวผ่านทางด่านชายแดนหนองคาย-เวียงจันทน์ จากนั้นพักเที่ยวเวียงจันทน์ 1 คืน แล้วนั่งรถไฟต่อไปที่หลวงพระบาง เมืองมมรดกโลกที่น่ารักมากๆ อยู่เที่ยว 3 วัน 2 คืนไปเลย

และวันนี้ก็ถึงเวลาบอกลาหลวงพระบาง เพื่อนั่งรถไฟข้ามประเทศ ไปสู่ประเทศจีน ปลายทางอยู่ที่เมืองสิบสองปันนา

default

เริ่มต้นที่หลวงพระบาง

เราจองตั๋วรถไฟ ล่วงหน้าที่ App LCR ticket ค่ะ  จากหลวงพระบาง ไป สิบสองปันนา รอบ 9.50 พอจองออนไลน์อะ เราจะได้ E-ticket ที่เป็น QR-Code มา ถ้าเดินทางภายในประเทศ ก็ใช้ QR-code นี้ขึ้นรถไฟได้เลย แต่ถ้าเป็นรถไฟข้ามประเทศอะ จำเป็นจำต้องแลกเป็นตั๋วกระดาษก่อน แล้วเก็บรักษามันไว้ให้ดีๆ

การนั่งรถไฟข้ามประเทศ จากหลวงพระบาง ไปสิบสองปันนา ประเทศจีนเนี่่ย ใช้เวลาประมาณ 5 ชม. ผ่านสถานี บ่อเต็น โมหาน ซี่ชหวนบันนา  มันนานตรงขั้นตอนการข้ามชายแดนนี่แหละ

LCR TICKET APP
iOS : https://apps.apple.com/th/app/lcr-ticket/id6444795307
Android : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.cars.laosticket&hl=th

ขั้นตอนการผ่านด่านชายแดน ลาว-จีน

จากหลวงพระบาง เราจะต้องลงรถไฟที่สถานีบ่อเต็นก่อน เพื่อไปสแตมป์ตราออกนอกประเทศ กับตม.ลาว เสร็จแล้วกลับขึ้นไปนั่งรถไฟขบวนเดิม  แล้วลงสถานีถัดไป สถานีบ่อหาน เพื่อไปแสตมป์พาสปอร์ตเข้าประเทศจีน เสร็จแล้วค่อยขึ้นรถไฟต่อไปยังสถานีสิบสองปันนา  หรือภาษาจีนอ่านว่า ซี่ฉวนบันนา (XISHUANGBANNA) ปลายทางของเราในวันนี้

ถ้าใครหวังจะดูวิวชิลๆระหว่างทาง อยากบอกว่าไม่ต้องคาดหวังนะ  เพราะรถไฟเข้าอุโมงค์บ่อยมาก บนรถไฟมีตู้เสบียงด้วย ขายขนม กับอาหาร 2 เมนู อย่าลืมว่าเขตจีนไม่รับเงินลาวแล้ว ควรมีเงินสดจีนหรือเตรียมลงทะเบียน App จ่ายเงินของจีนมาให้เรียบร้อย

วิธีเตรียมตัวก่อนเข้าจีน

สำหรับคนที่มาเที่ยวจีนแต่พูดจีนไม่ได้อย่างเราเนี่ย มันก็ต้องเตรียมตัวมากเป็นพิเศษ  โหลดแอปพร้อมลงทะเบียนทุกอย่างก่อนไปให้พร้อม  แล้วเราจะผ่านทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องพูดภาษาจีนเลย

  • Alipay ผูกกับบัตร Travel Card หรือบัตรเครดิต  เอาไว้สแกนจ่ายตังค์ได้ทุกที่ และเรียก Taxi Didi ได้ด้วย
  • WeChat เอาไว้สแกนจ่ายตังค์เหมือนกัน และเอาไว้แชทกับคนจีนแบบมี translate ในตัว
  • A-Map แอปแผนที่ออนไลน์ในจีนแทน Google map ที่เป็นภาษาอังกฤษ ให้ปักหมุดสถานีสำคัญต่างๆที่เราจะไปไว้ก่อนมา เช่น โรงแรม สถานีรถไฟ ที่เที่ยว
  • Google Translate วุ้นแปลภาษา
  • Trip.com จองโรงแรม,ตั๋วรถไฟในจีน

ที่สำคัญเลยคือ อย่าลืมเปิด Package Roaming  มาตั้งแต่ไทย-ลาว จนเข้าจีน  ไม่ต้องซื้ือซิมใหม่ เล่นเนตตอนที่รถไฟข้ามประเทศก็ไม่ติดขัด ใช้ Facebook , Instagram , Line , Tiktok ได้แบบไม่โดนจีนบล็อค เที่ยวคนเดียว Internet อย่าให้ขาดค่ะ

มาถึงแล้วสิบสองปันนา

จากสถานีรถไฟ เข้าที่พัก เราลองนั่งรถบัสที่อยู่หน้าสถานีรถไฟค่ะ อยากรู้ว่ารถบัสจีนจะเป็นยังไง แถมยังถูกกว่า Taxi ด้วย ในราคา 5 หยวนเท่านั้้น ปรากฏว่ารถคันนี้เป็นรถบัสนักท่องเที่ยว ไม่ใช่รถบัสสาธารณะ มีแจกแผนที่ มีไกด์ทัวร์ที่พูดจีนรัวๆ แบบ  nonstop ตลอดทาง  แต่น้องไกด์พูดภาษาอังกฤษปนๆไทยกับเราได้ เลยรู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้าง รถบัสคันนี้ มีจุด Bus Stop ที่ห่างจากโรงแรมที่จองไว้ 600ม. (ดูได้จากแผนที่ Amap)

ABOUT XISHUANGBANNA

เกร็ดความรู้เล็กน้อยเกี่ยวกับเมืองสิบสองปันนา ถ้าให้เปรียบเทียบกับไทย เราว่าที่นี่จะคล้ายๆเชียงใหม่อะ  แถวๆย่านคูเมือง มีร้านขายของฝาก คาเฟ่ ร้านนวดเยอะแยะ กับ Ornaments ตกแต่งสไตล์ภาคเหนือของไทย

ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมมา เค้าบอกว่า เดิมทีเมืองสิบสองปันนา ล้านนา(ภาคเหนือของไทย) ล้านช้าง(ลาว)  เค้าเป็นเมืองพี่เมืองน้อง พวกเค้าเรียกตัวเองว่าเป็นชาวไต, Tai , Dai มีสัมพันธ์อันดีต่อกัน  ติดต่อทำมาค้าขายผ่านเส้นทางลุ่มแม่น้ำโขง ก่อนจะมีการแบ่งเขตแดนเป็นประเทศจีน ไทย ลาว ทำให้มีการผสมผสานทางวัฒนธรรมกันมาตลอดหลายศตวรรต ก็เลยมีส่วนคล้ายๆ กันทั้งเรืองภาษา ศาสนา อาหาร ETC

ส่วนเรื่องที่ใครเคยเป็นเมืองขึ้นของใคร เราขอยังไม่อธิบายแบบลึกๆนะคะ เพราะไม่แน่ใจข้อมูลที่หามาได้ หนังสือประวัติศาสตร์ไทยว่าสิบสองปันนาเคยเป็นเมืองขึ้นของสยาม แต่ประวัติศาสตร์จีนบอกว่าไม่เคยน้าา ถ้าใครมีข้อมูลก็เอามาแชร์พร้อมแหล่งที่มาได้ค่ะ

ที่พักในสิบสองปันนา

โรงแรมเราชื่อว่า Re-Zen Retreat เป็นชื่อที่ขึ้นใน App  แต่พอมาถึงสถานที่จริง มันไม่มีชื่อภาษาอังกฤษเหมือนในแอปอะ ก็อาจจจะงงนิดนึง ต้องจำรร.จากภาพถ่ายแทน ภายในห้องพักคือดีเลย หอม สะอาด แอร์เย็น  เลือกที่นี่เพราะโลเคชั่นใกล้กับที่ลงรถบัส และใกล้กับ Star Light Night Market ที่เราอยากไป  ในราคาแค่คืนละประมาณ 800 บ. เราจะพักที่นี่ 2 คืนค่ะ

จองโรงแรมผ่าน App Trip.com  แอปนี้จะซัพพอร์ทที่พักในจีนมากกว่าพวก booking หรือ Agoda นะ 

เช็คราคาโรงแรม Re-Zen Retreat :  https://bit.ly/3LACH0c 

Starlight Night Market เก้าจอมสิบสองเชียง

ตกเย็นก็ออกไปเดินตลาดที่เค้าว่าใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลาดนี้มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Starlight Night Market  ถ้าพูดภาษาอังกฤษ ไปถามใครแถวนี้ก็คงไม่มีใครเข้าใจ เพราะคนจีนจะเรียกว่า Gaozhuang Xishungjing (โกลวจวง ซีซวงจิง) และคนไทยเรียกว่าตลาด เก้าจอมสิบสองเชียง  แปลมาจากภาษาไทลื้ออีกทีที่แปลว่า 9เจดีย์12หมู่บ้าน มีชื่อเรียกเยอะเหลือเกินจนไม่รู้จะเรียกว่าอะไรละ

ที่นี่เข้าฟรีนะคะ แต่ต้องโหลดแอปจีนเพื่อสแกน QR-CODE ตอนเข้า แต่เราเด๋อ…ยืนงง ๆ อยู่ เจ้าหน้าที่เลยช่วยสแกนให้เข้าไปเลยจ้า

ข้างในตลาดฟิลเหมือนมางานวัดอะ แต่เป็นงานวัดที่ีใหญ่มาก  มีตรอกซอกซอยให้เดินหลงจนงง  เขาว่าที่นี่คือ Night Market ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลยนะ ตลาดนี้สร้างขึ้นเพื่อจำลองเมืองสิบสองปันนาในยุครุ่งเรือง เพิ่งเปิดไม่นาน แต่กลายเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของมณฑลยูนนาน ผสมวัฒนธรรมจีน-ไทลื้อไว้อย่างลงตัว ดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยวจีนและต่างชาติเลยค่ะ

ภาษาไทยบนป้ายร้านจีน?

ความสนุกของการมาเดินตลาดนี้คือ การได้อ่านภาษาไทยแปลกๆ บนป้ายร้าน อยากเข้าไปถามว่าใครแปลให้น้อ 555  คือเค้าก็พยายามดึงความไทยเข้ามาประกอบ  เพื่อให้เข้ากับคอนเซ็ปโครงการเมืองไทยในจีนแหละ เราว่ามันก็เป็นอะไรที่่ น่ารักดี 

ส้มตำก็มา

อีกอย่างที่อยากมาลองคือส้มตำ ที่นี่เค้ามีเมนูเหมือนส้มตำแต่เอาเส้นๆผักๆเนื้อสัตว์มายำใส่กันในครกด้วยอะ ละมีใส่น้ำปรุงเหมือนน้ำปลาร้าเลย เค้าว่าเป็นอาหารไทลื้อ

นี่ก็ไปสั่งชิมมาให้ทุกคนแล้วนะ รสชาตไม่เหมือนส้มตำปลาร้าเลยค่ะ เหมือนยำกะปิบางๆ ออกไปทางเปรี้ยวๆ เค็มๆ แต่ไม่ได้นัวอยางที่คิด 555 ถือว่ามาถึงละ สิบสองปันนา

ธุรกิจเช่าชุด+แต่งหน้า+ถ่ายรูป ครบวงจร

สิ่งนึงที่เราเห็นว่ามีเยอะมากๆเลยคือร้านเช่าชุดไทย  มีคนโบกเรียกเข้าร้าน พร้อม Ipad ในมือ  โชว์รูป พส.จีนสวยๆ หน้าเต็ม ชุดปัง กล้องโปร

อะ ลองเข้าไปดูซักหน่อยละกัน ได้ความว่า เช่าชุดพร้อมแต่งหน้า และมีทีมช่างภาพ  ราคาเริ่มต้น 199หยวน หรือประมาณ 900บ. แล้วแต่เลเวลชุดที่เลือก และจำนวนภาพที่ต้องการ อันนี้คุยกันรู้เรื่องด้วย Wechat นะ มันมี Tranlate อัตโนมัต ก็ถือว่า ราคาไม่แแรงอย่างที่คิด แต่สำหรับเรามันคงไม่ใช่ทาง ดูคลิป Tiktok มาเยอะ แต่งหน้าแบบพส.จีน โต่วอิน หน้าฉันคอใครไรงี้ เลยบอกเจ๊ไปว่า พรุ่งนี้ก็แล้วกัน 555

นอกจากนี้ในตลาดก็ยังมีบาร์ริมน้ำ ทั้งแบบนั่งชิล แบบดนตรีสด  มีคลับ EDM ด้วย อันนี้งงนะ เพิ่งรู้ว่าคนจีนก็มักม่วนอยู่ไม่น้อย มีพวกเครื่องราง หินนำโชค อ่าโอเค ค่อยรู้สึกจีนขึ้นมาหน่อยละ

สิบสองปันนา ทำไมเหมือนไทยขนาดนี้

ถ้าถามว่านี่มันจีนก๊อปไทยรึปล่าว  เราว่ามันก็ไม่ได้ถูกซะทีเดียว เพราะเมืองนี้ มีชาวไทลื้ออาศัยอยู่มาก่อน  ซึ่งเค้าเชื่อว่าเป็นรากเหง้าของคนไทยบางส่วน ทางรัฐบาลจีนก็เลยนำจุดนี้  มาเป็นจุดขายส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ คงเหมือนกับที่ไทยมี ฟูจิเมืองไทย  สวิสเซอร์แลนส์เมืองไทย  กุ้ยหลินเมืองไทย ไรงี้ละมั้ง มันอาจจะมีเกินไปนิดนึงตรงที่  ไทลื้อเค้าก็มีตัวอักษรของตัวเอง ไม่ใช่อักษรไทยแบบไทยจริงๆแบบนี้ 

ก็ มาเที่ยวเอาสนุกๆแหละ

DAY 2

เรียก TAXI ผ่านแอปจีนครั้งแรก

วิธีเรียก Taxi ที่จีนเราจะใช้ App : Alipay ค่ะ ซึ่งในแอปนี้เราจะเห็นปุ่มหัวข้อ Taxi Didi กดอันนั้นแหละ ใช้เหมือนเรียก Grab Taxi หรือ Uber เลยค่า เลือกจุด Pick-up เลือกจุด Drop-off ให้ถูกก็พอ

การขึ้น Didi ที่จีนอะ พอขึ้นรถแล้ว จะต้องบอกเลข  4 ตัวหลังของเบอร์โทรเรา เป็นภาษาจีน กับคนขับ เพื่อให้คนขับเช็คว่ารับลูกค้ามาถูกคนมั้ย ตรงนี้คือสิ่งที่ตื่นเต้นมากสำหรับเรา เพราะมันเป็นการสื่อสารภาษาจีนกับคนจีนครั้งแรก 555

ใครจะเรียก Taxi เที่ยวก็แนะนำให้ไปจำเลขจีนมานะ ทางนี้จำเลขภาษาจีน 4 ตัวได้ขึ้นใจแล้ว โดยไม่ต้องเปิด Translate ดู

วัดเมืองลื้อ (เมิงเล่อ) Mengle Temple

โลเคชั่นแรกของวันนี้คือ วัด Mengle  ที่นี่จะมีค่าเข้าคนปกติอยู่ที่ 120yuan  และ 80หยวน สำหรับเด็ก คนสูงอายุ และทหาร  แต่อยู่ดีๆ พี่คนขับแทกซี่ก็ลงมาช่วยซื้อตั๋วให้ได้ในราคา 100yuan 

พอเข้ามาปุ๊ป จะเจอลานโล่งๆกว้างๆ  มีหุ่นนกยูงยักษ์ยืนต้อนรับเราอยู่ ด้านขวาเป็นจุดขึ้นรถกอล์ฟเพื่อเข้าวัด  ส่วนด้านซ้ายเป็นอาคารเล่นน้ำ Water Spash อะไรจะคอนทราสกันขนาดนี้ งงปะ 

ดูงานแสดงสงกรานต์ในจีน

ทางเข้าไปใน Water Splash Hall จะมีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ Locker เก็บของ  และร้านขายเสื้อผ้า พอเดาได้ว่าคนในฮอลคงจะพร้อมเปียกกันแหละ  เราไม่พร้อมเปียกจ้าา แต่ก็อยากไปดูหน่อย เสียตังเข้ามาแล้วอะเนอะ เค้าเป็นการแสดงโชว์แสงสีเสียง มีเต้น มีรำวง ยังกะเวที EDM แล้วคนที่มาก็ดูม่วนจอยกันอยู่นะว่าไป

ดูงานแสดงจบ ก็ออกมาทำภากิจถัดไป คือขึ้นไปชมวัดบนยอดเขาค่ะ ซึ่งจะมีอยู่ 3 วิธี

  • 1.นั่งรถ Electric car 40หยวน (~200บ.)
  • 2.ขึ้นบันไดเลื่อน 50หยวน
  • 3.เดิน ไม่มีค่าใช้จ่าย

เราตัดสินสินใจเดินขึ้นวัดค่ะ อันนี้เป็นความงกล้วนๆ จ่ายค่าเข้ามาตั้ง 500บ. แล้ว ต้องมาจ่ายอีก 200บ. มันก็แพงอยู่ 555 จากที่ดูแผนที่ ต้องเดินขึ้นบันไดไปประมาณ 600ม.  ถึงจะถึงยอดเจดีย์ทองที่เราอยากไป ระหว่างก็จะมีอาคาร วัด วิหาร มีสวนหย่อม ให้พักได้เรื่อยๆ ถ้าแบ่งสเตชั่นก็จะต้องเดินผ่านด่านทั้งหมด 5 สเตชั่น

สเตชั่นที่ 2
สเตชั่นที่ 3

สเตชั่นที่ 3

วัดเมิงเล่อ เป็นวัดพุทธเถรวาทที่ใหญ่ที่สุดในยูนนาน และเป็นหนึ่ึงในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวไทลื้อในย่านนี้มาช้านาน ด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ล้านนาแบบที่ชาวไทยเราคุ้นเคย  ยิ่งเดินขึ้นไปสูงเท่าไหร่ ก็จะเห็นวิวเมืองจิ่งหง เมืองหลวงของสิบสองปันนาสวยๆ เป็นรางวัลของนักเดิน

ฝนตกหนักมาก

เป็นนักท่องเที่ยวอยู่ดีๆ ก็กลายเป็นผู้ประสบภัยไปซะแล้ว เดินมาได้แค่สตเชั่นที่ 4 ไปต่อไม่ได้แล้ว ไม่มีร่มมา เลยต้องหลบฝนอยู่ตรงนี้ก่อน ดูทรงแล้วน่าจะขึ้นไปไม่ทัน เพราะวัดใกล้จะปิดแล้วด้วย เลยวิ่่งตากฝนกลับลงไป สเตชั่น 1 เห้ออ

สวนสาธาณะริมโขง

ออกจากวัด เราก็เรียก Didi ไปอีกสวนสาธรณะริมแม่น้ำโขง(จำชื่อแม่น้ำภาษาจีนไม่ได้) ฝั่งตรงข้ามกับตลาดที่เราไปเมื่อคืน ฝนหยุดตกพอดี  ก็กะว่าจะไปนั่งพักอก พักใจ ดูวิวแม่น้ำกลางเมืองซักหน่อย

วิวตรงนี้เรามองเห็นเลยว่าเมืองนี้ มีทำเลที่ดีมากนะ  มีแม่น้ำไหลผ่านกลางเมือง ล้อมรอบไปด้วยภูเขา ที่มีสายหมอกลอยบางๆ จริงๆ ช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่่ควรจะเห็นพระอาทิตย์ตกแหละ แต่วันนี้อะไรๆก็ดูจะไม่เป็นใจ เอาเหอะ ธรรมชาติมันก็ต้องมีวันดีบ้าง วันมรสุมบ้างแหละเนอะ เหมือนกันกับคนเรานั่นแหละ ต้องเจอออะไรอีกเยอะ กว่าจะตาย

เดินตลาดมืดสิบสองปันนา

เมืองสิบสองปันนา ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำโขง ก็มีตลาดอีกตลาดนึงนะ เป็นถนน Street Food เส้นเดียวยาวๆเลย อาหารเยอะ เราว่าตลาดนี้มีความโลคอลกว่า Star Light Night Marrket เมื่อวานเยอะเลย ถ้าจะมาหาของกิน ให้มาที่นี่ดีกว่า ตรงโน้นเอาไว้ถ่ายรูปพอ

แล้วทริปสิบสองปันนาก็จบเท่านี้ค่ะ พรุ่งนี้เราจะออกเดินทางต่อ ไปยังคุนหมิง มณฑลยูนนาน ประเทศจีนเช่นเดิม เมืองสุดท้ายของทริปนั่่งรถไฟข้ามประเทศนี้ละ ถ้าชอบการเดินทางแบบนี้ ฝากกดไลค์ ซับสไคร้  หรือส่งคอมเม้นเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ

บ๊ายบาย

ต้นอ้อ high on dreams

Hello

TEST 1

FOLLOW ME

More Stories
เที่ยวพังงา นั่งเรือชมอ่าวพังงา ดูเขาตาปู ทัวร์เกาะปันหยี ล่องแพไม้ไผ่ | PHANG NGA BAY