เที่ยวตามรอยเส้นทางสายไหม 3 จังหวัด พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี | PHICHIT / NAKORNSAWAN / UTHAITHANI

เคยคิดว่า “ผ้าไหม”  เป็นเครื่องแต่งกายสำหรับคนรุ่นแม่
.
แต่พอมาคิดจริงๆแล้วเนี่ย ผ้าไหมเป็นศิลปะอย่างนึงนะ กว่าจะย้อม กว่าจะทอ กว่าจะตัด กว่าจะออกมาเป็นชุดหนึ่งชุด ดีเทลเยอะขนาดที่ว่า ลาย Abstract Art บนผืนผ้านี้หมายถึงอะไร  ทั้งๆที่เราดูยังไงก็ดูไม่ออก 555  แต่ละพื้นที่ก็มีลายที่ครีเอทเองด้วย ใช้คำว่าอาร์ทตัวแม่ได้มั้ย ศิลปะ ภูมิปัญญาที่ส่งต่อมาจากยุคสู่ยุค  สู่วันที่ผ้าไหมจะไม่ใช่แค่เครื่องแต่งกายของแม่อีกต่อไป
.
ทริปนี้เลยจะพาเดินทางไปตามรอย “เส้นทางสายไหม”  กับรูท 3 จังหวัด พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี ไปดูศิลปะบนผ้าไหมที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละชุมชน ไหนๆก็มาแล้ว จะพาแวะที่เที่ยวแต่ละจังหวัดด้วยเลย
.
3 วัน 2 คืน 3 จังหวัด 7 ที่เที่ยว 5 ชุมชนผ้าไหมไทย สามารถนำแพลนนี้ไปเที่ยวตามได้จ้า

สถานที่ทั้งหมดในทริปนี้

พิจิตร
-กลุ่มทอผ้าบ้านห้วยแก้ว
-กลุ่มทอผ้าบ้านหนองพง
-วัดโพธิ์ประทับช้าง
-บึงสีไฟ
-วัดท่าหลวง

นครสวรรค์
-วัดคีรีวงศ์
-พาสาน
-กลุ่มทอผ้าไหมบ้านชุมตาบง

อุทัยธานี
-จุดชมวิวบ้านชายเขา
-วัดถ้ำเขาวง
-กลุ่มทอผ้าบ้านบึง
-กลุ่มทอผ้าลายโบราณบ้านภูจวง

ทริปนี้ได้รับการสนับสนุนโดย กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ภายใต้กิจกรรม “เส้นทางสายไหมสู่เมืองรอง” เพื่อผลักดันและส่งเสริมภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์ผ้าไหมของไทยให้เป็นที่ยอมรับในตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยเชื่อมโยงเรื่องราวของผ้าไหมไว้ในเส้นทางท่องเที่ยวเมืองรอง

นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้มาเหยียบ 3 จังหวัดนี้ พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี แอบตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้ไปที่ใหม่ๆ เจอสิ่งใหม่ๆ สถานที่ที่ไม่เคยเห็น และที่สำคัญครั้งนี้เราจะได้มาเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ  ทั้งการทำผ้าไหม และลวดลายท้องถิ่นจากดีไซน์เนอร์รุ่นเก๋า

เราเริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพกันแต่เช้า  จังหวัดแรกที่ไปเยือนคือจังหวัดพิจิตร 

“กลุ่มทอผ้าบ้านห้วยแก้ว”

ผ้ามัดหมี่ลายดอกแก้ว เป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียวของกลุ่มทอผ้าไหมบ้านห้วยแก้ว ที่สืบทอดภูมิปัญญามาตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษ และสืบสานกันมาจนถึงปัจจุบัน ชาวบ้านห้วยแก้วดั้งเดิมส่วนใหญ่ย้ายถิ่นฐานมาจากจังหวัดทางภาคอีสานรวมตัวเป็นชุมชนห้วยแก้วในปัจจุบัน  โดยได้นำองค์ความรู้และภูมิปัญญาการปลูกหม่อน  เลี้ยงไหม  ปลูกฝ้าย  และทอผ้าไหม มาสืบทอดให้คนในชุมชน ต่อมาได้คิดค้นและพัฒนาต่อยอดลวดลายให้สอดคล้องกับวิถีชุมชน ทั้ง “ลายสายดอกแก้ว” และลายประจำจังหวัดอย่าง “ลายดอกบุนนาค”  อันเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดพิจิตร

ติดต่อสอบถาม : คุณราตรี  กองทรัพย์
กลุ่มทอผ้าบ้านห้วยแก้ว199 หมู่ 1 ตำบลห้วยแก้ว  อำเภอบึงนาราง  จังหวัดพิจิตร  66130
โทร. 081-1533-6804   Line : 0815336804    FB : ราตรี  ทองทัพย์
LOCATION : https://goo.gl/maps/YxG84auwQkT125is9

วิธีการขึ้นลายของที่นี่ใช้วิธีมัดหมี่ หลังจากแกะเชือกที่มัดไหมออกมา จะสามารถนำไปทอเป็นผืน ส่วนที่มัดก็จะเป็นลายๆนั้น เราว่าขั้นตอนนี้ต้องใช้ความเชี่ยวชาญและแม่นยำมากๆถึงจะออกมาเป็นลายแบบที่ออกแบบไว้

คุณยายกำลังทอไหมลายดอกบุนนาค ซึ่งเป็นลายประจำจังหวัดพิจิตร

กลุ่มทอผ้าบ้านหนองพง

ผ้าไหมมัดหมี่ลายต้นสน  กำเนิดจากประชากรในหมู่บ้านหนองพง ที่ย้ายถิ่นฐานมาจากภาคอีสานตั้งแต่อดีต  โดยได้นำเอาวัฒนธรรมการทอผ้าเพื่อใช้ในครัวเรือนมาสืบสาน และพัฒนาต่อยอดเพื่อจำหน่าย  สร้างสรรค์เป็นผ้าไหมลายมัดหมี่ลาย “ต้นสน”  ที่บรรพบุรุษประยุกต์มาจากลวดลายต่างๆที่อยู่รอบตัว  ต่อมาได้เพิ่มลวดลายผ้าไหมให้สวยงามและแปลกใหม่มากยิ่งขึ้น  โดยยังคงใช้ “กี่กกระตุก”  ซึ่งเป็นอุปกรณ์ทอผ้าจากภูมิปัญญาพื้นบ้านชาวไทยเชื่อสายพวน  ในการทักทอ  ทำให้ได้ผ้าไหมคุณภาพดี  เนื้อไหมละเอียด  สีสันสวยงาม  สีไม่ตก  และราคาย่อมเยา

ติดต่อสอบถาม : คุณดารณี  วงศ์สวัสด์ 
กลุ่มทอผ้าบ้านหนองพง282/1  หมู่ 17  ตำบลทุ่งใหญ่  อำเภอโพธิ์ประทับช้าง  จังหวัดพิจิตร  66190 โทร. 088-817-2516
Line : 0888172516    FB : ดารณี  วงศ์สวัสดิ์
LOCATION: https://goo.gl/maps/J2qqqoz8Me6uqwhy7

ที่นี่จะเน้นเรื่องการย้อมสีจากธรรมชาติ เช่น อัญชัญ โคลน กาบมะพร้าว ใบกะเพรา  (เรียงจากบนลงล่าง) เฉดสีผู้ดีมากกกกกก

ผ้าไหมลายที่อยุ่บนมือเป็นลายต้นสน ส่วนลายที่เราใส่อยู่ เห็นว่าเป็นลายที่อยู่ในช่วงทดลองออกแบบ ชื่อลายว่าหัวใจยังว่าง จากคุณยายดีไซน์เนอร์วัยเก๋าใกล้จะ 80 ขวบ ดูลายหัวใจไม่ค่อยออกหรอก แต่ชอบอารมณ์ขันที่ใส่ลงไปในผลงานของยายแกจริงๆ 

ผ้าที่บ้านนี้ราคากำลังดี เลยโดนผ้าพันคอฝ้ายนิ่มๆ ย้อมสีธรรมชาติ (จากโคลน) ไปหนึ่งผืน 250 บาทเองจ้าาาา

วัดโพธิ์ประทับช้าง

สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ชาติไทยที่มีอายุกว่า 300 ปี    สร้างในสมัยพระเจ้าเสือ (พระมหากษัตริย์ลำดับที่ 29 ในสมัยอยุธยา และพระมหากษัตริย์องค์ที่ 2 แห่งราชวงศ์บ้านพลูหลวง) แต่ยังคงสภาพเดิม ไม่มีการบูรณะจนเสียทรงอาคารเดิม ดูภายนอกจึงเห็นเป็นเหมือนวัดร้างเก่า ไม่มีหลังคา เสาล้มบ้าง แต่จริงๆแล้วยังมีการใช้งานอยู่ แต่ต้องการรักษาสถาปัตยกรรมแบบอยุธยาเอาไว้ 

LOCATION : https://goo.gl/maps/NyXHMk1cGBdU7WxP7 

ภายในอุโบสถวัดโพธิ์ประทับช้าง ยังมี คือ พระพุทธรูป เรียกันว่า “หลวงพ่อโต”  เป็นพระพุทธรูปปูนปั้น แสดงปางมารวิชัย

บึงสีไฟ

ตามตำนานเรื่องไกรทอง ที่เล่าว่ามีจระเข้ใหญ่ชื่อพญาชาลวัน เคยอาละวาดกินผู้คน และในที่สุดถูกไกรทองปราบลง ตำนานนี้มีต้นกำเนิดที่จังหวัดพิจิตรนี่เอง เราสามารถเจอพญาชาละวันได้ง่ายๆเพียงไปที่ บึงสีไฟ  แหล่งน้ำอันดับใหญ่ลำดับ 3 ของประเทศ  สถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองพิจิตร เหมาะกับการมาดูพระอาทิตย์ตกดิน และเป็นสัญลักษณ์แห่งแรกของจังหวัด เข้ามาข้างในสวนจะเจอแลนด์มาร์คตัวใหญ่ เค้าว่าเป็นพญาชาละวัน (จระเข้ปูน) ขนาดยาวกว่า 38 เมตร 

ตอนเย็นๆ จะเห็นชาวบ้านออกมาเดินมาวิ่งอยู่ที่สวนแห่งนี้ ปั่นเป็ดก็มี

LOCATION : https://goo.gl/maps/74eCoSgQWTER7TK36

วัดท่าหลวง (พระอารามหลวง)

เริ่มต้น เช้าวันที่ 2 เราแวะเที่ยวที่ วัดท่าหลวง ก่อนเดินทางสู่เมืองรองถัดไปคือจังหวัดนครสวรรค์  กราบไหว้สักการะหลวงพ่อเพชร ณ วัดท่าหลวง (พระอารามหลวง) สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดพิจิตร และยังเป็นสถานที่สำคัญในการจัดแข่งขันเรือยาวประเพณีชิงถ้วยพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

LOCATION : https://goo.gl/maps/Dfkipxsy2NSFTvZ7A

อากาศตอนเช้าเย็นๆกำลังดีเลย  เดินไปอีกนิดจะเห็นแม่น้ำน่านไหลผ่านด้านหน้าวัด ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญในการจัดแข่งขันเรือยาว 

วัดคีรีวงศ์ จ.นครสวรรค์

เจดีย์ที่วัดคีรีวงศ์ องค์มหาเจดีย์ขนาดใหญ่สีทองอร่ามตั้งอยู่บนยอดเขา ภายในองค์พระเจดีย์ชั้น 4  มีพระพุทธรูปจำลองที่สำคัญ ถึง  4 องค์  คือ  พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต)  พระพุทธชินราชจำลอง พระพุทธโสธรจำลอง และพระพุทธรูปหลวงพ่อวัดไร่ขิง ภายในโดมเจดีย์ ได้วาดภาพจิตรกรรมฝาผนังเกี่ยวกับพระพุทธประวัติไว้ให้ชมด้วย ที่ชั้น 4 สามารถขึ้นไปชมวิวเมืองนครสวรรค์ได้ 360 องศาเลยทีเดียว

LOCATION : https://goo.gl/maps/2rDqDK6dtC5u3N7S6

ที่ชั้น 4 มองเห็นวิวของเมืองนครสวรรค์ได้ในมุมกว้าง โดยจะมองเห็นบึงบอระเพ็ด ควรมาชมวิวช่วงเช้าและเย็น เห็นวิวสวย มาก 

ถ้าได้มาดูตอนพระอาทิตย์ตกดินคงจะสวยกว่านี้ ตอนนี้มาถึงเที่ยง แอบร้อนนิดนึง

พาสาน จ.นครสวรรค์

จุดชมวิวสุดชิลล์แห่งใหม่ของปากน้ำโพ เป็นอาคารสัญสักษณ์ตันแม่น้ำพระยา  ตั้งอยู่บริเวณแหลมเกาะยม จุดบรรจบแม่น้ำปิงและแม่น้ำน่าน ตันกำเนิดแม่น้ำเจ้าพระยา พาสานมีที่มาจากคำว่า ‘ผสาน’ อันหมายถึงการผสานกันของแม่น้ำทั้ง 4 สายกลายเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา อีกผสานหนึ่ง คือ การพาคนเข้าไปสานให้เกิดการผสมผสานกันระหว่าง คน สถานที่ และสภาพแวดล้อม

LOCATION : https://goo.gl/maps/YQ8LkUj9rKKxao5h9

ตัวอาคารเป็นรูปทรงโค้ง เหมือนสะพาน มีความพลิ้วไหวดั่งสายน้ำ เมื่อคนเดินขึ้นไปแล้วจะเห็นทัศนียภาพในระดับที่สูงขึ้นไปตามลำดับ 

ที่นี่ไม่ใช่เพียงแค่แลนด์มาร์คไว้ถ่ายรูปโก้ๆ แต่เป็นสถานที่พักผ่อนและทำกิจกรรมแห่งใหม่ให้ชาวนครสวรรค์ได้ใช้ประโยชน์ ทั้งรำไทเก็ก พูดคุย เล่นดนตรี

ผสาน อีกนัยหนึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่างเทศบาลนครสวรรค์ ประชาชนท้องถิ่น และบริษัทสถาปนิกเอกชน เพื่อให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ร่วมสมัย

กลุ่มทอผ้าไหมบ้านชุมตาบง 

ผ้าไหมทัศน์ทอง ผ้าไหมที่งดงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวใส่ใจในกระบวนกรผลิตทุกขั้นตอน ตั้งแต่การปลูกหม่อน เลี้ยงไหมการสานและทอด้วยมือ รวมถึงการย้อมสีจากธรรมชาติ การผลิตเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เน้นใช้ทรัพยากรที่มีในชุมชน และแบ่งผลกำไรเพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรในท้องถิ่น จนได้รับมาตรฐาน ‘Bio Economy, ‘ นกยูงพระราชทาน สีเงิน-สีน้ำเงิน, รางวัล ‘Smart SME จังหวัดนครสวรรค์’  ภูมิปัญญาไหมไทย จังหวัดนครสวรรค์ และ หมู่บ้านหัตถกรรมดีเด่น  หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร  ปี พ.ศ. 2561 เป็นผ้าไหมที่ทรงคุณค่า และอนุรักษ์ภูมิปัญญาพื้นบ้านอย่างแท้จริง

ติดต่อสอบถาม :  คุณชนิดา โวโลดิน 
วิสาหกิจชุมชนกลุ่มทอผ้าไหมบ้านชุมตาบง 43 หมู่ 8 ตำบลชุมตาบง อำเภอชุมตาบง  จังหวัดนครสวรรค์ 60150
โทร. 081 – 043- 8983  Line : 0612906064yam FB : Chanida Volodin
LOCATION : https://goo.gl/maps/Hd3xzFeTAK8eD4h46

เราชอบไหมบ้านชุมตาบงแบบหนึ่ง ตรงที่หลังจากได้เส้นไหมมาก็เอามาทอเลย เราจะได้ส้มผัส Texture และสีธรรมชาติของเส้นไหมแบบเพียวๆเลย ที่น่าสนใจคือผ้าไหมแบบนี้ยิ่งซักก็ยิ่งนิ่ม เป็นผ้าพันคอ ใส่กับชุดไหนก็เข้า น่าใช้มากๆ

นอกเหนือจากผ้าไหม ที่นี่จะมีผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการทำผ้าไหมคือโปรตีนรังไหม มีคุณสมบัติที่สามารถเอาไปทำเป็นยาสระผม โลชั่น สบู่ และอื่นๆได้ เป็นอีกช่องทางในการหารายได้ และใช้วัตถุดิบที่เหลือให้มีประโยชน์ขึ้นไปอีก ผลิตภัณฑ์ทุกชนิดได้รับการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ อย. และยังได้รับตราส่งเสริมผลิตภัณฑ์จากฐานทรัพยากรชีวภาพ อีกด้วย

จุดชมวิวบ้านชายเขา

ช่วงเย็นก่อนเข้าที่พัก แวะผ่อนคลายกันที่ จุดชมวิวบ้านชายเขา  ตั้งอยู่ใน อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี  ที่เที่ยวแห่งใหม่ของ จ.อุทัยธานี ซึ่งจะได้พบกับความสวยงามของภูเขาหินปูน ของเขาปลาร้า  หุบเขาตาด  ตัดสลับภาพไร่ข้าวโพด  สวยผลไม้ของชาวบ้าน บริเวณใกล้ๆ ยังมีที่พักให้บริการทั้งโฮมสเตย์และรีสอร์ท

เอาจริงๆ ภูเขาวิวนี้สวยเหมือนวิวเขา YOSIMITE เลยจ้าาา ไม่ต้องไปไกลถึงอเมริกาแล้ววว

LOCATION : https://goo.gl/maps/btguUKByLXouQxgF6

ขอภาพโดดซักที

วัดถ้ำเขาวง

เข้าสู่วันที่ 3 แล้ว แวะเข้าวัดถ้ำเขาวง วัดสวยทรงไทย ท่ามกลางขุนเขา อันซีนไทยแลนด์ ตั้งอยู่ใน ต.บ้านไร่ ซึ่งอยู่ห่างจาก อ.เมืองไม่ไกล ตัววัดเป็นสถาปัตยกรรมแบบไทย 4 ชั้น ด้านหน้าเป็นบ่อน้ำขนาดใหญ่ มีสะพานข้ามตรงการ ถ้าเข้าไปยืนกลางสะพานจะถ่ายรูปเห็นตัววัดเป็นแบ็คกราวน์ด้านหลังสวยงามมาก บริเวณรอบๆวัดแวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ สีเขียว สงบ ร่มรื่น

LOCATION : https://goo.gl/maps/uCnEcVCxzyAFuYsbA

ด้านหลังวัดเป็นทางเดินขึ้นเขาไปถ้ำ หาข้อมูลมาเค้าว่าระยะทางกว่า 1 กิโล ระหว่างทางมีถ้ำอีก 3-4 ถ้ำก่อนจะไปถึงรอยพระพุทธบาทดั้งเดิมบนยอดเขา แต่เราเดินไม่ถึงค่ะ 

กลุ่มทอผ้าบ้านบึง 

“ผ้าไหมทอจก” เป็นผ้าไหมมัดหมี่ทอกี่พื้นเมืองต่อตีนจกลายโบราณ ซึ่งเป็นลายที่ได้สืบทอดภูมิปัญญามาจากบรรพบุรุษ กลายเป็นลายที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น รังสรรค์ขึ้นจากจินตนาการที่อยู่รอบๆ ตัวของผู้ถักทอ โดยผ้าทอบ้านไร่ ได้มีการรวมกลุ่มทอผ้ากันหลายกลุ่ม ซึ่งแต่ละกลุ่มได้มีการพัฒนาจุดเด่นของผ้าทอให้มีความแตกต่างกันออกไป และผสมผสานการแปรรูปผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลายยิ่งขึ้น โดยยังคงอัตลักษณ์ความเป็นพื้นถิ่นเหมือนในอดีตเอาไว้ ทำให้ผ้าทอของอำเภอบ้านไร่ เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น

ติดต่อสอบถาม :  คุณศรีนิน จันทรักษ์
กลุ่มทอผ้าบ้านบึง 73 หมู่ 1 ตำบลบ้านบึง อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี 61140โทร. 081 – 785 – 6070   
Line : 0817856070  FB : ศรีนิน จันทรักษ์
LOCATION : https://goo.gl/maps/Lz6ojRDxeeDJBoTe9

ผ้าไหมย้อมสีด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติ

ผ้าไหมตีนจก กว่าจะทำเสร็จได้แต่ละผืนใช้เวลานานมาก ต้องมีช่างฝีมือดีค่อยๆจกทีละลาย ยิ่งลายยาก จกเยอะ ราคาก็ยิ่งสูงขึ้น บางผืนที่นี่ราคาหลายหมื่น แต่พอได้เห็นขั้นตอนการทำจริงๆจะไม่รู้สึกว่ามันแพงเลย ผืนนึงทำเป็นเดือน

นี่เป็นลายผ้าที่ไหมตีนจกสีที่เราชอบมาก ด้วยความที่มันเป็นสีธรรมชาติมันจะออกตุ่นๆ ออกพาสเทล ไม่สดเกินไป แอบอยากได้ผืนนี้แหละ ถามราคามาอยู่ที่ 8000 บาท ถ้ามีตังค์จะกลับไปซื้อเลย

 กลุ่มทอผ้าลายโบราณบ้านภูจวง  

สุดท้ายแล้ว เรามาจบที่  กลุ่มทอผ้าลายโบราณบ้านภูจวง   ที่นี่ทำผ้าไหมมัดหมี่ต่อจก เป็นผ้าทอมือของชาติพันธุ์ลาวเวียงลาวครั่งแห่งจังหวัดอุทัยธานี เป็นวัฒนธรรมของชาวไทขาว-ลาวเวียงที่มีมาตั้งแต่ครั้งโบราณกาล โดยมีกระบวนการ ‘ย้อมสีผ้า’ ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ นับเป็นถูมิปัญญาพื้นบ้านที่ส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น จากเดิมย้อมด้วยสีจากวัตถุดิบธรรมชาติที่มีในท้องถิ่น ต่อมาได้ประยุกต์การย้อมสีร่วมกับเทคนิคสมัยใหม่ เพื่อให้ได้สีที่ติดทนนาน มีสีสันสวยงามตามต้องการ ทำให้ ‘ผ้าไหมมัดหมี่ต่อจก’ ทอมือของกลุ่มทอผ้าลายโบราณบ้านภูจวง มีชีวิตชีวา น่าหลงไหลเป็นยิ่งนัก

ติดต่อสอบถาม :  คุณนิทัศน์  จันทร 
กลุ่มทอผ้าลายโบราณบ้านภูจวง 128 หมู่ 14 ตำบลทัพหลวง อำเภอบ้านไร่  จังหวัดอุทัยธานี 61140โทร. 089 – 959 – 9460
Line : 0899599460  FB : นิทัศน์  จันทร
LOCATION : https://goo.gl/maps/G9UgG6Pvvq58atCQ6

คุณป้าบอกว่าผ้าไหมที่นี่เป็นลายโบราณ ลายเล็กลายน้อยก็มีชื่อ มีความหมายหมด เดี๋ยวนี้บางคนซื้อผ้าไหม ไม่ได้เอาไว้ใส่ แต่เอาไว้สะสม ยิ่งเก่ายิ่งดี เหมือนเป็นของหายาก เพราะบางลายคนทอรุ่นเก๋าๆ โปรๆ เค้าก็ไม่อยู่แล้ว คนรุ่นไหม่แกะลายทำออกมาก็ไมเหมือนเดิมบ้างก็มี งานผ้าไหมมันจึงมีมูลค่าทางใจมากกว่าราคา

แต่ทุกวันนี้ผ้าไหมทอจก ก็เริ่มพัฒนาลายใหม่ๆ ขึ้นมาเรื่อยๆก ก็ได้แรงบันดาลใจจากคนสัตว์ สิ่งของรอบๆตัว ก็เพื่อให้คนรุ่นใหม่สนใจและมองว่าผ้าไหมไม่จำเป็นต้องเป็นของคนแก่เสมอไป อย่างลายนกยูงนี้ ทางบ้านภูจวงก็คิดลายขึ้นมา ทำลายกฏของซิ่นจกที่มีในหัวไปหมดเลย ในอนาคตคงจะมีลายใหม่ๆ ขึ้นมา และคงจะไม่ใช่คนรุ่นแม่ที่สวมใส่อีกต่อไปแล้ว

และนี้ก็เป็นทริป ตามรอยเส้นทางสายไหม จังหวัดพิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี ในแบบของเรา
แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้าเด้อ

ต้นอ้อ | high on dreams :}

Hello

TEST 1

FOLLOW ME

More Stories
2 วัน 1 คืน ใน “มะนิลา” พาเดินเล่นเมืองหลวงของประเทศฟิลิปปินส์ | 2 DAYS IN MANILA , PHILIPPINES