ทุกวันนี้คนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่นง่ายอย่างกับไปเที่ยวกาญจนบุรี
และนี่ก็เป็นอีกครั้งของเรา ที่อยู่ๆนึกอยากไปญี่ปุ่น เห็นตั๋วราคาดีก็ซื้อไปเลย โปรไฟไหม้ จาก UnithaiTrip ซื้อวันนี้บินอาทิตย์หน้าจ้า ตั๋วมาก่อน แพลนค่อยคิด รู้แค่อยากออกจากประเทศกรุงเทพ แค่นั้นเองจริงๆ
โชคดีที่มีเพื่อนร่วมอุดมการณ์ วันเกิดนาง นางก็อยากออกไปรั่วๆต่างประเทศ เลยกดซื้อไปแบบไม่ลืมหูลืมตาตาม ถือเป็นของขวัญวันเกิดให้ตัวเองซะเลย
ทริปนี้เราไปกันที่คิวชู KYUSHU เกาะทางใต้ของญี่ปุ่น เป็นเวลา 5 วัน 4 คืน บินจากกรุงเทพลงฟูกุโอกะ (FUKUOKA) หนึ่งในเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในญี่ปุ่น แล้วไปตามหาหัวใจที่นางาซากิ (NAGASAKI) ต่อด้วยไปเดินเล่นเมืองกลางหุบเขาที่ยูฟูอิน (YUFUIN)
ตามหาตั๋วโปรไฟไหม้ได้ที่ https://www.unithaitravel.com/th/index.php
https://web.facebook.com/unithaitrip/
ขอออกตัวก่อนว่านี่เป็นการเที่ยวภูมิภาคคิวชูครั้งที่ 2 จึงแพลนเที่ยวในส่วนที่ยังไม่เคยไปในรอบที่แล้ว ถ้าอยากรู้ครั้งแรกเป็นยังไง ตามไปอ่านได้ที่นี่เลยจ้า https://www.highondreams.com/travel/kyushutakemetothesea/
แพลนเที่ยวคิวชู 5 วัน 4 คืน มีดังนี้ (แบบหลวมๆ)
- DAY 0
21.30 MEET AT DMK
SL0314 LIONAIR 23.50-7.30(+1day) - DAY 1
7.30 ARRIVE FUKUOKA
BUY JR NORTH KYUSHU PASS
TRAIN TO NAGASAKI
GLASSES BRIDGE
SUNSET VIEWPOINT TOP 3
STAY IN NAGAZAKI - DAY 2
TRAIN NAGASAKI TO YUFUIN
WALKING STREET YUFUIN
ONSEN
STAY IN YUFUIN - DAY 3
BIKE DAY
TAKE A TRAIN W YUFUIN NO MORI”
STAY IN FUKUOKA - DAY 4
FUKUOKA CITY WALK
SHOPPING
YATAI
PARTY - DAY 5
BACK TO BKK (EARLY MORNING FLIGHT)
SL0315 LIONAIR 8.25 – 12.00
ถ้าสนใจเช่ารถขับในญี่ปุ่น ลองดูที่เว็บนี้ได้เลยเน่อ
เป็นเว็บรวมบริษัทรถเช่าทั้งหมดในญี่ปุ่น มีราคาเปรียบเทียบ
ใช้โค้ด O8HUXU ได้ราคาพิเศษเมื่อจองผ่านลิ้งค์นี้
https://www2.tocoo.jp/th?asp_id=902
เราบินกับสายการบินไลออนแอร์ บินตรงจากกรุงเทพดอนเมือง ไฟล์ทดึกสุด 11.50pm ไปถึงสนามบินฟูกุโอกะเช้าตรู่วันถัดไป 7.30am ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง บินดึกๆแบบนี้ก็ดีอยู่อย่างคือ นอนหลับบนเครื่อง พอไปถึงก็เที่ยวต่อได้เลย ไม่เปลืองค่าที่พัก (ตอนอยู่บนเครื่องก็รีบๆหลับละกันเนอะ)
DAY1 FUKUOKA AIRPORT BUS
วิธีเดินทางจากสนามบินฟูกุโอกะ เข้าเมืองก็จะง่ายหน่อยเพราะสนามบินอยู่ในตัวเมือง นั่งแทกซี่ก็สะดวก แต่ก็มีวิธีช่วยประหยัดกว่า คือนั่ง Airport Bus ไปลงสถานีรถไฟ Hakata ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการเดินทางไปที่ต่างๆในตัวเมืองและในภูมิภาคคิวชูด้วย เพื่อความประหยัดไปอีก เราซื้อ JR NORTHERN KYUSHU PASS 3 DAYS เป็นตัวช่วยในการเดินทางในครั้งนี้ ก็สามารถซื้อได้ที่สถานีฮากาตะเลย
JR KYUSHU RAIL PASS
JR RAIL PASS เป็นบัตรเดินทางรถไฟอันลิมิต สำหรับนักท่องเที่ยว เหมือนเป็นบัตรเบ่งอะ มีขายทั้งแบบเดินทางได้ทั่วประเทศ หรือแยกเป็นภูมิภาค สำหรับ Kyushu นี้ก็แบ่งเป็น North Kyushu และ All Kyushu ถ้ามาเที่ยว Kyushu มากกว่า 1 เมือง ก็แนะนำให้ซื้ออันนี้แหละ เราคำนวนมาแล้วคุ้มกว่าซื้อเป็นเที่ยวเยอะ วิธีใช้ก็แค่โชว์บัตรผ่านช่องข้างๆพนักงานขายตั๋วรถไฟในแต่ละสถานีได้เลยเด้อ
ของเรารอบนนี้เลือกซื้อ Northern Kyushu area JR rail pass 3 วัน เริ่มใช้ตั้งแต่วันแรกเลย เพราะจะเดินทางไป Nagasaki กับ Yufuin ส่วนวันที่เหลือเราอยู่ในตัวเมือง Fukuoka คงไม่ต้องใช้ JR PASS ละ แต่อย่าลืมว่าถ้าเราอยากนั่งรถไฟขบวนพิเศษ ต้องจองก่อนเด้อ ซึ่งมันก็ไม่ใช่ทุกสถานีที่เราสามารถจองได้ ต้องเป็นสถานีที่มีออฟิส JR จ้า เช่น เราเข้ามาซื้อ JR KYUSHU PASS ที่ออฟฟิส JR สถานี Hakata ก็พ่วงเขียนใบจองรถไฟ Yufuin No Mori ขาไปกลับ ล่วงหน้าจากที่นี่เลย
คนพร้อม ตั๋วรถไฟพร้อม ก็ออกเดินทางต่อโลดดดดด
HAKATA STATION
หน้าตาสถานีรถไฟฮากาตะ ใหญ่มากๆ ลิฟท์เยอะ ทางเข้าทางออกเยอะไปหม๊ดดด เดินจนหลง ที่เห็นเนี่ยแค่บนดิน แต่ทางเดินใต้ดินคนพลุกพล่านเลยแหละ
ICHIRAN RAMEN
หิวแล้วจัดราเมงสักหน่อย ICHIRAN RAMEN เป็นราเมงข้อสอบชื่อดัง เค้าบอกว่าจุดเริ่มต้นมาจาก Hakata นี่แหละ มาถึงที่แล้วต้องโดน
FUKUOKA TO NAGASAKI
กินอิ่มก็ได้เวลานั่งรถไฟ Shinkansen ไป Nagasaki กัน หลับไปเลย 2 ชั่วโมงค่า
การเดินทางในญี่ปุ่นง่ายมากกนะ เช็คเวลาในเว็บนี่ตรงเป๊ะๆ วางแผนได้ว่ารถไฟมาตอนไหน ออกตอนไหน ถึงตอนไหน ทุกครั้งที่มาญี่ปุ่นเราเซฟเว็บนี้ไว้เลยที่หน้าจอ http://www.hyperdia.com
NAGASAKI 1ST TIME
และแล้วก็มาถึง Nagasaki แล้วจ้า เลือกที่พักใกล้ๆสถานีรถไฟ Nagasaki เลยจะได้ไม่ต้องเดินทางเยอะ แต่ที่พักที่เลือกไว้เสือกอยู่บนเขา แม่เจ้าโว้ยยยยย
ROUTE CAFE & HOSTEL
ROUTE CAFE & HOSTEL เป็นโฮสเทลใกล้ๆสถานีรถไฟใน Nagasaki ชั้นแรกไม่มีอะไร ชั้นต่อไปเป็นรีเซฟชั่น และคาเฟ่ ชั้นต่อไปชั้นที่ 3 ถึงเป็นโซนห้องพักโฮสเทล และชั้นที่ 4 เป็น Living Room โซนพักผ่อน คาเฟ่ที่นี่น่ารักตะมุตะมิ มีโฮมเมดเบเกอรี่ และพนักงานหนุ่มน่ารัก น่าแอ๊ว 555
ดูรายละเอียดที่พักได้ที่นี่
http://www.nagasaki-route.com/about–hostel.html
http://www.booking.com/Share-y4HSBV
เราสองคน แอบงีบหลับซักแป๊ป รอแดดร่มๆแล้วค่อยออกมาเดินเล่นดูบ้านเมืองนางาซากิ
NAGASAKI CITY & TRAM
เดิมทีนางาซากิเป็นหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ มีพื้นที่ติดทั้งภูเขาและทะเล แถมมีแม่น้ำไหลผ่านกลางเมืองอีก เรียกว่าเป็นเมืองที่ครบเครื่องสุดๆ เดาว่าภูมิประเทศแบบนี้เป็นต้นฉบับของเมืองท่า ที่นักสำรวจโลกชาวต่างชาติจะแวะมาเผยแพร่วัฒนธรรมแน่ๆ บริเวณท่าเรือจึงเห็นสิ่งปลูกสร้างสไตล์ยุโรปปนอยู่ประปราย เหมือนดังเช่นนักสำรวจชาวโปรตุเกสล่องเรือเข้ามาทำการค้าขายในไทยสมัยก่อนนั้นเอง
นางาซากิยังมีประวัติศาสตร์ที่น่าจดจำอีกหนึ่งสิ่งคือ ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง 9 สิงหาคม ค.ศ. 1945 นางาซากิเป็นเมืองที่สองถูกทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ และเป็นเมืองสุดท้ายของโลกที่ถูกโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์จนถึงปัจจุบัน
การเดินทางใน Nagasaki ส่วนใหญ่เราใช้ Tram และใช้สองเท้าเดิน จะมีช่วงดึกๆ ขี้เกียจเดินแล้ว ก็เรียกแทกซี่กลับ โซนที่เป็นดาวน์ทาวน์จริงๆ คือลง tram แถวๆสถานี Kanko-dori ไปทางสถานี Shianbashi เป็นถนนคนเดิน ช่วงเสาร์อาทิตย์ก็จะคึกคักหน่อย เอาจริงๆถ้าได้มาที่นี่อีกครั้งก็จะเลือกพักย่านนี้แหละ
บ้านบนเนินเขา แบบนี้พบเห็นได้ทั่วไปในนางาซากิเลย โฮสเทลเราก็อยู่หนึ่งในนั้นแหละ
DOWNTOWN & PEOPLE OF NAGASAKI
26 Martyrs Museum
เพื่อนเราเป็นนักท่องเที่ยวสายชอบเข้ามิวเซียม นางเห็นว่ามีมิวเซียมอยู่ข้างๆที่พัก ก็เลยพากันเดินเข้าไปดู มันคือ 26 Martyrs Museum and Monument เป็นอนุสรณ์สถาน และพิพิธภัณฑ์ เพื่อลำลึกถึงชาวคริสเตียน 26 คน ที่ถูกสังหารในบริเวณนี้(ด้วยโซ่และเชือกแขวน) เนื่องจากตอนนั้นประเทศญี่ปุ่นยังมีการแอนตี้ศาสนาคริสต์อยู่ โดยในชาวคริสต์ 26 คนนั้น 20 คนเป็นชาวญี่ปุ่น และอีก 6 คนเป็นชาวต่างชาติ ที่น่าเสียใจคือเป็นเด็กถึง 3 คน จึงกลายเป็นอนุสรณ์สถานที่สำคัญของประวัติศาสตร์คริสเตียนในญี่ปุ่น
อนุสรณ์ 26 Martyrs เข้าฟรีเพราะอยู่ใน Park
ส่วนมิวเซียมมีค่าเข้าชม 500yen
เวลาทำการ 09:00 น. – 17:00 น.
http://www.26martyrs.com
Location : https://goo.gl/maps/8VGZBmXbErUHLuxm9
สะพานแว่นตา
(SPECTACLES BRIDGE
หรือ Meganebashi Bridge)
อีกจุดที่เป็นแลนด์มาร์คคิ้วๆ ของนางาซากิคือสะพาน ARCH ที่มีเงาสะท้อนน้ำเป็นรูปแว่นตา เป็นสะพานหินแห่งแรกในญี่ปุ่น มีอายุเกือบ 400 ปี สามารถลงไปเดินเล่นริมน้ำเพลินๆ เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวนางาซากิเค้าแหละ
LOCATION : https://goo.gl/maps/qx134N85AZCwDaTE8
หินรูปหัวใจ HEART STONE
ความคิ้วๆ ของที่นี่ยังไม่หมด เพราะบริเวณใกล้ๆกัน ถ้าใครตาดีๆจะเห็นหินรูปหัวใจซ่อนอยู่ในกำแพงหินริมน้ำ เค้าเชื่อว่าจะสมหวังเรื่องความรัก เอาจริงๆก็หายากอยู่นะ เดินผ่านไปผ่านมา 2-3 รอบกว่าจะมองเห็น ว่าจะถอดใจละ แต่เพื่อนฉันเป็นคนจริงจังด้านความรักต้องตามหาหัวใจให้เจอ แล้วก็เจอจนได้ ลูบๆคลำๆเหมือนขอหวย หวังว่านางจะได้เจอรักแท้ในเร็วๆนี้เนาะ เอาใจช่วย เพื่อนโสดโปรดจีบจ้าาาา
จุดชมวิวเขาอินาสะ
Mount Inasa viewpoint
ออกจากสะพานแว่นตา ใกล้ค่ำแล้ว ก็นั่งแทรมต่อไปดูพระอาทิตย์ตกดินที่ Mount Inasa มีความสูงอยู่ที่ 333 เมตร ที่สามารถชมวิวเมือง Nagasaki ได้ 360 องศา ติด 1 ใน 3 จุดชมวิวกลางคืนที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นเลยเด้อออ (อีกสองอันดับคือ Mt.Hakodate และ Mt.Rokko) การเดินทางขึ้นมาก็ง่ายมากเพราะมี Ropeway นั่งกระเช้าสวยๆจ้า ไปกลับ 1,230yen
LOCATION : https://goo.gl/maps/EWWKaTacTcfJDWCo6
เวลาเปิด-ปิด 9AM–10PM
DAY 2 NAGASAKI
ตื่นเช้ารับวันใหม่กับแซนวิช+Homemade soup จากโฮสเทล ที่มีเด็กเสิร์ฟหน้าตาดีดูแล (ก็คนเดียวกันกับรีเซฟชั่นเมื่อวานนั่นแหละ)
NAGASAKI PREFECTURAL ART MUSEUM
วันที่ 2 ในนางาซากิแล้ว ช่วงเช้าจะทัวร์เมืองอีกซักนิด ก่อนจะย้ายเมืองไป Yufuin ในช่วงบ่าย
และแล้วชะนีสายอาร์ทสองคนก็เดินเข้ามิวเซียมอีกครั้ง เพราะได้ยินมาว่าที่นี่มีงานของปีกัสโซ่ของแท้!!!! คุ้มค่าเข้าแล้วหละ พิพิธภัณฑ์ศิลปะนี้มีทั้งแบบหมุนเวียนและถาวร งานของปีกัสโซ่และงานของศิลปินชื่อดังคนอื่นๆ ถูกแขวนให้ได้เชยชมอย่างใกล้ชิด ถ่ายภาพมาไม่ได้ก็ต้อง เสพย์ศิลป์ให้มากที่สุดแหละ
NAGASAKI PREFECTURAL ART MUSEUM
Location : https://goo.gl/maps/pkYC29pGiX9hgrjE8
อาคารสวย
NAGASAKI SEASIDE PARK
ถัดมาไม่ไกลจาก Art Museum ก็ติดสวน Seaside Park แล้ว สวนใหญ่ติดทะเล มีคนมานั่งปูเสื่อปิกนิกกุ๊กกิ๊กน่ารักดี ตรงนี้จะเห็นวิวท่าเรือ เห็นวิวบ้านที่ตั้งบนเขาโดดยมีแม่น้ำเป็น foreground ถ้ามาตอนเย็นๆน่าจะชิลดี แต่นี่มาตอนเที่ยงๆไงแม่
Location : https://goo.gl/maps/v75nRaXswGYtd7Bv5
NAGASAKI TO YUFUIN
ในช่วงบ่าย เราออกเดินทางจาก Nagasaki ไปต่อรถไฟขบวนพิเศษ Yufuin No Mori ที่สถานี Tosu รถไฟสีเขียวขบวนน่ารักๆ หนึ่งในขบวนรถไฟชื่อดังแห่งเกาะคิวชู ซื้อเราได้ทำการจองไว้ตั้งแต่เมื่อวานแล้วตอนอยู่สถานีฮากาตะ
YUFUIN NO MORI
รถไฟขบวนพิเศษ YUFUIN NO MORI ออกเดินทางจาก Fukuoka และไปสุดท้ายที่เมือง Bebpu แต่เราจะลงระหว่างทางที่เมือง Yufuin ซึ่งป็นเมืองเล็กๆน่ารักๆในหุบเขา
ที่ได้เป็นรถไฟขบวนพิเศษเพราะการออกแบบตกแต่งคูลมากก สวยงาม ดีเทลเยอะ นั่งสบาย หน้าต่างกว้างไว้มองวิว มีตู้สำหรับเดินไปชมวิวโดยเฉพาะด้วย ที่เด็ดคือระหว่างทางบนรถไฟเนี่ย ไม่อยากให้พลาดเลย ผ่านแม่น้ำ ผ่านลำธาร ภูเขา น้ำตก ทุ่งนา วาไรตี้ บางที่ก็ชะลอให้นักท่องเที่ยวได้มีเวลามองน้ำตก มีพนักงานชูป้ายบอกว่าข้างหน้าจะมีอะไร ให้มองไปทางไหน จะเจอแลนด์มาร์คอะไร เป็นรถไฟท่องเที่ยวที่ประทับใจมากๆ มีของที่ระลึกสำหรับคนชอบสะสมรถไฟญี่ปุ่นด้วยนะ
YUFUIN ยูฟูอิน
เรามาถึงยูฟูอินก็เกือบๆ 5 โมงเย็นแล้ว เดินลากกระเป๋าจากสถานีรถไฟไปที่พักอีก 600 เมตร ยิ่งเดินไกลออกนอกเมืองไปเท่าไหร่ ข้างทางก็ยิ่งสดชื่นนน อากาศเย็นๆ เดินริมลำธาร โอ้ยยย นี่ฉันรักที่นี่ตั้งแต่เท้าก้าวออกจากรถไฟละเนี่ยย
YUFUIN RYOKAN TADAIMA
YUFUIN เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงที่สุดด้าน บ่อน้ำพุร้อน แห่งหนึ่งในคิวชู แน่นอนว่าเราเข้ามาพักที่นี่ก็อยากเลือกนอนเรียวกังที่มีบ่อน้ำร้อนในที่พัก ได้ฟิลไปอีก
ที่พักเราคือ YUFUIN RYOKAN TADAIMA แปลว่า “I’m home” ในภาษาญี่ปุ่น ห้องพักเป็นแบบเรียวกัง ปูฟูกหนาๆ นอนเสื่อทาดามิ พร้อมเซตอาหารเช้าจากสวนผักในหมู่บ้าน มาเสิร์ฟให้ถึงหน้าประตูห้อง มีออนเซนฟรี จักรยานให้ยืมฟรี และรีเซฟชั่นน่ารักมาก นี่เธอจะแอ๊วผู้ชายทุกๆโรงแรมที่ไปพักไม่ได้นะ!!! 5555
BOOK THE HOTEL : http://www.booking.com/Share-7vtbvW
LOCATION : https://goo.gl/maps/cpE1PdemRXSdzbaJ7
INFORMATION : https://yufuin-tadaima.com/index-en.html
OITA BEEF BBQ
วันนี้ยังไม่ได้ทำไรมาก มาถึงที่ก็หาร้านอาหารกินกันเลย ที่นี่มีร้านเนื้อย่างโลคอลอยู่ที่นึง น้องรีเซฟชั่นแนะนำมา เป็นร้านเล็กๆ ซ่อนอยู่ชั้น 2 ต้องเดินขึ้นบรรไดไป มีเมนูเซตเนื้อวากิวจากโออิตะ ซึ่งเป็นเนื้อท้องถิ่นของที่นี่ ย่างกินกับเบีย อร่อยเว่อวังงง ฉันซื้อตั๋วเครื่องบินมาเพื่อสิ่งนี้ ขอบคุณวัวตัวนั้นที่สละชีวิตมาให้เราได้กิน ฮ่าๆๆๆ
隠れ家焼肉 大也
ไม่มีชื่อร้านภาษาอังกฤษนะ เอาโลชั่นไปก่อน
LOCATION : https://goo.gl/maps/ScoRwie4Tei7h8z69
ONSEN
จริงๆช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการแช่ออนเซนที่สุด เค้าบอกว่าคเป็นช่วงก่อนอาหาร หรือก่อนนอน เรากับเจนออกมาแช่กันตอน 5 ทุ่ม โชคดีไม่มีคนเลยได้ถ่ายรูปเล่นกันนิดหน่อย แช่เสร็จ นอนเลย หลับสบ๊ายยยย
ออนเซนที่นี่แยกชายหญิง มีแบบ Indoor และ Outdoor ก่อนลงแช่ต้องแก้ผ้าทั้งหมด แล้วไปอาบน้ำถูสบู่ แล้วค่อยลงแช่เด้อ
DAY 3
GOOD MORNING YUFUIN GUY
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ตื่นแต่เช้าด้วยเสียงปลุกของน้องรีเซฟชั่นสุดหล่อ เข้ามาเสริฟอาหารเช้าให้ถึงห้อง จริงๆแค่ได้เห็นหน้าน้องก็เติมพลังในเช้าวันนี้ให้กระปรี้กระเปร่าได้มากกว่าอาหารเซตนี้อีกนะ คิคิ ความสุขของชะนีทั้งสองในทริปญี่ปุ่นก็มีแค่นี้แหละ ความสุขง่ายๆ ไม่ต้องไปหาที่ไหนไกล โอ้ยย นี่เขียนรีวิวอะไรของเธอเนี่ยยยยยย
BIKE DAY
ทานเข้าเช้า อาบน้ำ เก็บกระเป๋า เช็คเอาท์ 10 โมง ฝากกระเป๋าไว้ที่เรียวกัง แล้วเอาจักรยานออกไปปั่นเล่นรอบเมืองกัน
คิวชูช่วงเดือนกันยาคืออากาศดีนะ จริงๆดูพยากรณ์มาว่าฝนจะตก แต่ไม่ตก มันเลยไม่หนาว ไม่ร้อน แต่ถ้าออกแดดก็จะร้อนอยู่แหละ และเมืองยูฟูอินนี่ก็เหมาะกับการปั่นจักรยานเล่นมากๆ วิวสวย ปั่นชิวๆ แต่ละที่ก็ไม่ไกลกันมาก สรุปเวลาครึ่งวันที่เหลือเราเก็บแลนด์มาร์คไปได้ 5 ที่ ก่อนจะขึ้นรถไฟกลับรอบบ่าย 3.50pm
- 1.KINRIN LAKE
- 2.Tenso Shrine
- 3.Bussanji Temple
- 4.Yufuin Stained Glass Museum
- 5.SHOPPING STREET
วันนี้ใช้กระเป๋าคิดตี้ น่ารักงุงิ เป็นรุ่น Limited Edition ของแบรนด์กระเป๋า Herschel เข้ากับทริปนี้พอดี๊พอดี
#HelloKittyxHerschel
#HerschelThailand
ซื้อได้ที่ https://web.facebook.com/HerschelSupplyThailand/
https://web.facebook.com/BratpackThailand/
ถ้ามาวันที่อากาศดีๆ ไม่หนาวไม่ร้อน แนะนำให้ปั่นจักรยานค่ะ เพราะข้างทางสวยมาก
LAKE KINRIN
ทะเลสาบคินริน ทะเลสาบเล็กๆท้ายหมู่บ้านยูฟูอิน น้ำใสโคตร มีปลาแหวกว่าย น้ำในทะเลสาบไหลมาจากน้ำพุร้อน มันเลยมีอุณภูมิอุ่นๆตลอดเวลา ยิ่งถ้าเป็นช่วงอากาศหนาวๆ ในตอนเช้าจะมีไอขึ้นมาจากน้ำ สามารถเดินเล่นจับมือผู้ชายชิลๆได้ โรแมนติก
รอบๆทะเลสาบก็มีร้านค้ คาเฟ่า ร้านขนมน่ารักๆอีกนะ
TENSO SHRINE
ศาลเจ้านี้ตั้งอยู่ติดทะเลสาบคินริน เป็นศาลเล็กๆ ถ้าเดินไปข้างหลังจะเห็นซุ้มประตู Torii ตั้งอยู่บนน้ำ ถือเป็นจุดชมทะเลสาบที่สวยงามอีกจุดหนึ่ง
Bussanji Temple
วัดเก่าแก่แห่งหนึ่งในยูฟูอิน จุดเด่นคือมีประตูทางเข้าเป็นแบบโบราญ หลังคาประตูมีระฆังและมุงหญ้าแห้ง เค้าว่าวัดนี้มีอายุกว่าพันปี ข้างในเงียบสงบ peaceful มีสวนสไตล์ Zen ให้เชยชม
LOCATION : https://goo.gl/maps/RMstAtzqQ9yP9dQFA
Yufuin Stained Glass Museum
ปั่นจักรยานถัดมาอีก 5 นาที จะเจอพิพิธภัณฑ์กระจกสี ในนี้จะมี 2 อาคาร คืออาคารที่เป็นโบสถ์ ตกแต่งด้วยกระจกสีส่องด้วยแสงธรรมชาติ และอาคารที่เป็นบ้าน ข้างในแสดงกระจกสีลายประวัติศาสตร์แบบกล่องไฟ กับขายของที่ระลึก ทั้งหมดนี่ห้ามถ่ายรูปข้างใน แต่ก็สวยดีนะ เสียค่าเข้า 1000yen ถ้าอยากถ่ายรูปเฉยๆ ถ่ายหน้าโบสถ์อิฐแดงสไตล์ยุโรปก็สวยแล้ว
LOCATION : https://goo.gl/maps/yGNz66jCCpRP6McA8
เวลาเปิดปิด 9am – 6pm
YUFUIN WALKING STREET
หลังจากนั้นปั่นย้อนหลับเข้าเมืองมาที่ Walking Street เพื่อมาหาของกินและของที่ระลึกกัน เราจอดจักรยานไว้หลังร้านเค้กร้านหนึ่ง แล้วก็สละรถเดินเล่นกันเลย ถนนเส้นนี้คนเดินเยอะ ปั่นจักรยานยากค่ะ ข้างทางมีร้านของฝากน่ารักงุงิเต็มไปหมด ร้าน Hello Kitty หรือตัวการ์ตูนต่างๆ หมดตังไปได้หลายบาทเลยแหละ
เสียดายเวลาหมดแล้ว จริงๆยังมีอีกหลายที่ที่อยากไป ทั้งชมบ้านหิน Floral Village / ขึ้นไปชมวิวที่ Mt.Yufu / แช่ออนเซนธรรมชาติ / afternoon tea และอีกหลายๆที่
YUFUIN TO FUKUOKA
ได้เวลา 15.50 จากยูฟูอิน นั่งรถไฟขบวนพิเศษ Yufuin No Mori อีกครั้ง ถึงได้รู้ว่าเราควรเดินไปตู้อื่นๆบ้าง เพราะมันตกแต่งไม่เหมือนกันเลย โดยเฉพาะตู้หน้าสุดที่สามารถเห็นวิวหน้ารถไฟได้แบบ 180องศาเลยทีเดียว นี่ซื้อพุดดิ้งนม Milch จากถนนคนเดินมากินบนรถไฟด้วย ฟินน อร่อยอยากให้ลอง
THE LIVELY HOTEL – FUKUOKA
ที่ฟูกุโอกะ เราเลือกที่พักใจกลางเมืองหน่อยๆ เน้นเดินทางสะดวก อยู่ในย่านชอปปิ้งและย่าน Night Life กะว่าถ้าจะออกไปปาร์ตี้กลับดึกๆ หรือซื้อของจะได้ไม่เดินไกล เลยได้มาที่นี่ THE LIVELY HOTEL ใกล้สถานีรถไฟ Nakasukawabata ใกล้ย่าน Tenjin และ ร้านดองกี้
THE LIVELY HOTEL FUKUOKA เป็นโรงแรมออกจะวัยรุ่นหน่อยๆ มี Hostel รวมอยู่ด้วย จึงมีห้อง Living Room และ โซน Entertainmet ตั้งแต่ก้าวขาเข้าประตูโรงแรม ชั้นแรกเป็นบาร์ ในตอนเย็น 5-6 โมงมี FREE BEER สำหรับผู้เข้าพักด้วย คือดีงามมม ห้องสวย แต่ก็เล็กๆตามสไตล์โรงแรมญี่ปุ่นแหละ
LOCATION : https://goo.gl/maps/99itPV8Ct1uhHMN76
INFORMATION : www.the-lively.com
BOOK HOTEL : http://www.booking.com/Share-flz7fO
TENJIN AREA
ย่าน Tenjin เป็นเหมือนย่านวัยรุ่นของที่นี่แหละ ถ้าเทียบกับไทยก็ประมาณสยามอะ มีห้างหลายห้องเปิดอยู่ติดๆกัน มีคนเดินขวักไขว่ สินค้าแบรนเนมและโลคอลแบรนด์หาซื้อได้ที่นี่
YATAI
ฟูกุโอกะรอบนี้ เราจะเน้นกิน ที่แรกใกล้ๆโรงแรมเราเลยคือริมแม่น้ำคานาสุ แถวนี้มีรถเข็น Street Food หรือคนญี่ปุ่นเรียกกันว่า Yatai เพียบ Yatai ที่นี่มีตั้งแต่ปิ้งย่าง อิซากายะ ซูชิ เกี๊ยวซ่า ยันชาบูๆ แต่ละคันก็ขายกันคนละแบบ
ปกติแล้วญี่ปุ่นกำหนดให้การขายอาหารข้างทางแบบ Yatai ผิดกฏหมาย แต่ยกเว้นไว้สำหรับที่นี่ จึงทำให้ยาไตที่ฟูกุโอกะได้รับความนิยม และได้รายได้เยอะมากจากนักท่องเที่ยวอย่างเราๆที่ถวิลหาความโลคอลเนี่ยแหละ มาเดินถนนเส้นนี้ฟิลลิ่งเหมือนเดินอยุ่ตลาดรถไฟรัชดา แต่ราคาไม่ได้ย่อมเยาเลย ฮ่าๆๆ
24HRS FOOD
ความดีงามพระรามแปดของที่นี่คือมันมีร้านอาหาร 24 ชั่วโมงด้วยว่ะ ร้านที่เราชอบสุดคือเนี่ยย ชื่อญี่ปุ่น ไม่รู้จะเซิดได้ยังไง รู้แต่มาญี่ปุ่นกี่ครั้งก็มากินร้านนี้ตลอดเลย จุดเด่นร้านเป็นโคมไฟแดง มีกราฟฟิกทะเลรกๆแบบในรูปที่ถ่ายมาให้ดู (จะเรียกว่าสไตล์โอซาก้าได้มั้ย?) เมนูเด็ดเค้าคือ มันปูคานิมิโสะ (Kanimiso) แกล้มเบียร์ กับแก๊งอาหารทะเลตั่งต่าง มีเฟรนไชน์ทั่วญี่ปุ่นนะจ๊ะ อยากกลับญี่ปุ่นอีกหลายๆรอบเพราะอาหารเลย
磯丸水産 中洲国体道路店
LOCATION : https://goo.gl/maps/Ln4XDjsZ5az45f9f7
sfpdining.jp
TAJIMAYA : THE BEST SHABU IN FUKUOKA
เกิดอยากกินชาบูน้ำดำสูตรญี่ปุ่นขึ้นมา เลยเซิดหารีวิว และได้เจอกับร้านชาบูนี้ Tajimaya คนรอคิวเยอะ ต้องลงชื่อจองไว้อีกครึ่งชั่วโมงถึงได้เข้ามากิน เราก็อ่านเมนูและวิธีการสั่งไม่ค่อยรู้เรื่องหรอก แต่เลือกเซต Quality beef ไว้ก่อน รสชาติคือดีเนื้อดี ซุปดี คนละ 2000 เยน กินอิ่มแบบพุงแตกมากแม่ ส่วนพวกผักและเครื่องเคียงเป็น Buffet ตักได้เลย
LOCATION : ห้าง Solaria Plaza ชั้น 7
https://goo.gl/maps/wwuST8bkJ4pGwUiG9
24HRS SHUSHI
หลังเดินชอปปิ้งเสร็จ หิวรอบดึกอีกแล้วจ้า คราวนี้อยากกินซูชิ อยากกินไข่หอยเม่น บังเอิ๊ญ บังเอิญมีร้านหน้าโรงแรมเป็นซูชิ 24 ชั่วโมง และนี่ออกมากินตอนเที่ยงคืน ตอนที่เชฟเปลี่ยนกะกันพอดี จานเพือนเชฟคนนึงทำ จานเราก็เชฟอีกคนมาทำ อร่อยนะ ราคามาตรฐานญี่ปุ่น
24HRS SHOPPING
ขณะนี้เวลาตี 3 และสภาพห้องชะนีในคืนสุดท้ายหลังจากกลับจากทัวร์ร้านดองกี้ (Don Quiyote) ดองกี้เป็นร้านซื้อของฝากประจำเมื่อไปเที่ยวญี่ปุ่น นางเปิด 24 ชั่วโมงเลย และขอ Tax refund ได้ที่นั่นทันทีด้วย (เมื่อซื้อเกิน 5000Yen)
ปัญหาคือ เรากลับมาตี 3 และต้องตื่นตี 4 เพื่อไปสนามบินเช็คอินไฟล์ทเช้า SL0315 LIONAIR 8.25 – 12.00 จะนอนก็กลัวจะไม่ตื่น เดี๋ยวไม่ได้กลับบ้าน ก็เลยไม่นอนซะเลยจ้าาา
GOOD BYE FUKU
เราให้โรงแรมเรียกแทกซี่ให้ไปสนามบินเลย ใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้ว แต่ด้วยความเผื่อเวลามากเกินไปหน่อย กะว่าจะไปซื้อของสนามบิน แต่ร้านค้ายังไม่เปิดกันจ้าาาา เช้าเกิ๊นนน
ยังไงซะ ทริปฟูกุโอกะรอบนี้ก็ยังไม่ค่อยสมบูรณ์นัก แต่ก็สนุกดี ถ้ามาอีกรอบก็ยังมีที่ให้ไปอยู่เรื่อยๆ ไม่รีบค่ะ อย่างที่เค้าว่ากันว่าฟูกุโอกะเป็นเมืองใหญ่ที่น่าอยู่ที่สุดในญี่ปุ่น ความเจริญเทียบเท่ากับโตเกียวและโอซาก้า แต่คนไม่วุ่นวายเท่า คนที่นี่เค้าอยู่กันแบบชิลๆ นั่งรถไฟไม่เบียด และดูปลอดภัย เป็นอีกที่ที่อยากย้ายบ้านมาอยู่อย่างถาวร ถ้ามีตังเพียงพออะนะ ฮ่าๆๆ
และนี้ก็เป็นทริป KYUSHU ในแบบของเรา
ขอบคุณเจนใจเพื่อนร่วมทริป และแฮปปี้เบิร์ดเดย์
แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้าเด้อ
ต้นอ้อ high on dreams :}
