เที่ยวพังงาแบบบูทีคๆ | Phangnga Boutique the Adventure

ปลีกตัวออกจากเมืองกรุงซัก 2-3 วัน
เพื่อพาร่างที่ปวดหลังจากออฟฟิสซินโดรม
ไปโต้ลมทะเลแบบชิลๆ จนตัวเค็ม
ไปนอนอาบแดดให้ผิวสีแทน (แทนข้ึนไปอีก)
ไปถ่ายรูปจิบ Cocktail ริมสระว่ายน้ำ แบบเน็ตไอด้อนสมัยนี้
ไปล่องเรือ ทำทีว่าหลงไปในป่าอเมซอน
แล้วโพสในเฟสว่า I’m in the middle of nowhere…
แต่ไม่ใช่ที่ไหนไกล
..
..
ที่นี่คือจังหวัด “พังงา”
เมืองตากอากาศของประเทศไทย
.
.

งานนี้ Roxy Thailand จัดทริปพาสาวๆ Roxy และ หนุ่ม Quiksilver ไปร่วม Adventure ด้วยกันถึงพังงา จะสนุกขนาดไหน ไปดูกัน

PLAN
DAY 1 Surfing Day
DAY 2 Explore the hidden place
DAY 3 Go back home

ใครจะไปรู้ ว่าจังหวัดพังงาก้มี Hidden Place เยอะอยู่เหมือนกัน
นี่แหละเสน่ห์ของเมืองไม่ใหญ่ไม่เล็ก แต่เน้นธรรมชาติที่เข้าถึงง่าย

ทริปชิคๆ Boutique the Adventure เราจะพาไปสัมผัสพังงาในแบบที่มีระดับกว่าเดิม กับสายการบิน Bangkok Airways บินตรงสู่จังหวัดภูเก็ต จากสนามบินสุวรรณภูมิ ไฟล์ท 10 โมงเช้า ไปถึงภูเก็ตเวลา 11.25 น. เป็นเวลากำลังดี มีอาหาร น้ำหนักกระเป๋า 20kg พร้อม ไม่ต้องห่วง

.
ทางไปจองตั๋วเครื่องบิน http://www.bangkokair.com/full/th
ติดตามโปรโมชั่น https://www.facebook.com/FlyBangkokAir/

Let’s Go Phangnga ไปเที่ยวพังงากัน

มันจะมีอยู่หาดนึงอะ ที่เหมือนจะลึกลับ ถ้าดูจากทางเข้า เป็นทางลูกรัง ผ่านอุโมงค์ป่าสนและดงใบบอนใบใหญ่ ยิ่งใกล้ถึงหาด ขีดความตื่นเต้นยิ่งมากขึ้น เพราะเราจะได้เจอกับหาดทรายกว้าง กว้างมากจริงๆ กับคลื่นลูกใหญ่ และนักโต้คลื่นผิวแทนเท่ๆ

ความสนุกมันก็เริ่มจากตรงนี้แหละ…
.
.
Memories Beach Barที่นี่เป็นแหล่ง Hangout ของเหล่า Surfer เลยหละ เรามาที่นี่หลายครั้ง และเคยอยากจะเก็บที่แห่งนี้ไว้เป็นที่แห่งความลับต่อไป เพราะไม่อยากให้คนเยอะ แห่กันมา แล้วทำมันพัง แต่ไม่ทันแล้ว 555เอาเป็นว่า ถ้ามาแล้วเกรงใจเจ้าของที่กันนิดนึงเนอะ ปูเสื่อกินส้มตำริมหาดกินเสร็จก็เก็บไปทิ้งด้วย ไม่ใช่อะไร กลัวนักเซิร์ฟหล่อๆจะหนีกันไปหมดซะก่อน 5555

นอกจากบาร์คูลๆแล้ว ยังเป็นโรงเรียนสอนเล่นเซิร์ฟด้วย คลื่นและหาดที่นี่เหมาะกับ Beginner ที่สุดแล้ว (บางวัน)

เนี่ยย ชื่อ”แมน” เป็นครูสอนเซิร์ฟในวันที่เราไปเรียน ไปกี่รอบก็เริ่มเรียนใหม่ทุกครั้ง 5555 แมนเป็นนักกีฬาทีมชาติเลยนะเห้ย มีเพจเซิร์ฟของตัวเองด้วย ไปตามกันได้ที่ Hyper Man

การจะเล่นเซิร์ฟให้เก่งได้เนี่ย ขึ้นอยู่กับการฝึกฝนล้วนๆ เล่นบ่อยๆให้ชิน จับคลื่นเองได้ก็ไม่ต้องมีครูประกบแล้ว

อ้อ และหาดนี้ ขึ้นชื่อเรื่องพระอาทิตย์ตกดิน แสงอาทิตย์ที่สะท้อนพื้นหาดโล่งกว้าง มันสวยงามมากจริงๆ

อีกที่หนึ่ง ที่ควรปักหมุดไว้ถ้ามาพังงาเลย คือ Little Amazon หรือว่าคลองสังเน่ห์
เราจะได้ล่องเรือยางไปตามคลองเล็กๆ รายล้อมไปด้วยไม้ป่าโกงกาง
ที่คุณลุงพายเรือบอกว่าที่นี่เป็นป่าดิบชื้น มีอายุเป็นร้อยๆปีแล้ว

อย่างรากของต้นไทรเนี่ย กว่ามันจะยาวได้ขนาดนี้ ต้องใช้เวลากี่ปีนะ

บรรยากาศอย่างกับอยู่ในหนังเรื่องแม่นาค ซึ่งมันใช่เลย ที่นี่เป็นฉากถ่ายทำหนังเรื่องแม่นาคจริงๆ แต่ไม่รู้ว่าท่าน้ำที่นางนาคมารอพี่มากนั้นอยู่ตรงไหน

ความพีคของที่นี่คือมันไม่ได้แค่ล่องเรือสวยๆ ธรรมดา
แต่มันมีงู!!! ไม่ได้จะเล่นมุขเถ้าหัวงูนะ
งูเว้ย งูจริงๆ นอนขดอยู่บนต้นไม้

คุณลุงพายเรือบอกว่า เป็นงูปล้องทอง มีพิษนะ แต่ตอนกลางวันนางจะหลับ จะนอนขดอยู่เฉยๆ เราก็ดูอยู่บนเรือไกลๆ อย่าเข้าไปใกล้เขย่าต้นไม้ปลุกมันเชียว เค้าเลยตั้งฉายาป่าแห่งนี้ว่า Little amazon หละมั้ง

ออกจาก Little Amazon มาไม่ไกล ไปต่อกันที่ สะพานเหล็กตะกั่วป่า

สะพานเหล็กตะกั่วป่าแห่งนี้ (หรือสะพานเหล็กโคกขนุน)
เมื่อก่อนเป็นสะพานสำหรับข้ามไปเหมืองแร่ ยาวประมาณ 200ม ซึ่งตอนนี้ไม่มีเหมืองแล้ว กลายเป็นสะพานทางลัดเข้าหมู่บ้านแทน สะพานนี้ยาวข้ามทุ่งนา และแม่น้ำตะกั่วป่า ซึ่งหากว่าลองเดินข้ามไป ก็ยังสามารถเห็นโรงขุดแร่เก่าที่ยังคงสภาพเดิมไว้อยู่แม้จะไม่ได้ใช้งานแล้ว

แต่ที่เราชอบคือน้องควายนาที่อยู่ข้างทางต่างหาก
น่าร๊ากก

อะๆ ถ่ายรูปกับเดอะแก๊งอวดหน่อยละกัน น้องมอส น้องกุณ น้องแบงค์ จาก the face men ฮะ

เข้าไปดูในตัวเมืองเก่าตะกั่วป่าบ้างดีกว่า ณ ถนนศรีตะกั่วป่า

ในทุกๆวันอาทิตย์ ที่นี่จะมีถนนคนเดิน ขายขนม ขายของกิน ของที่ระลึกมากมาย
ส่วนวันนี้ที่เรามาเป็นวันธรรมดา ถึงจะไม่มีถนนคนเดิน
แต่ก็ได้เห็นตัวอาคารสไตล์ชิโนโปรตุเกสแบบเต็มๆ
บางจุดก็จะมีภาพ Grafity อยู่บนกำแพงให้ตามหา
ซึ่งมันก็เป็นเรื่องราวอิงประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตผู้คน ในสมัยก่อน

สามารถดูภาพเพิ่มเติมได้จากทริปก่อนได้ค่ะ
http://www.highondreams.com/travel/seasunphangnga002/

Grafiti บนผนังที่ซ่อนอยู่

นอนเล่นใต้ต้นมะพร้าว พักผ่อนริมทะเลใสๆ ที่ เกาะกูดรีสอร์ท | KOH KOOD RESORT

ลายผ้าพื้นเมืองตะกั่วป่า

เที่ยวมาจนเหนื่อย กลับมาพักต่อที่โรงแรม
อย่างที่บอกกันแต่ต้นว่าเรามาเที่ยวกันแบบบูธีคๆ พักโรงแรมดีๆ กินอยู่สบาย

La Vela KhaoLak

โรงแรมเปิดใหม่ ดีไซน์เก๋ เดินเข้าโรงแรมมาแล้วจะร้องอู้วววหูววววว กับความใหญ่และชิค
ตัวอาคารมีกี่ตึกไม่รู้ รู้แต่มีสระว่ายน้ำ 3 ส่วน คือสำหรับที่พักในแต่ละเฟส และสระว่ายน้ำโซนริมหาด

ภายในห้องพัก ของเราเป็นเฟสหลังสุด ไม่ติดทะเล แต่ติดกับสระว่ายน้ำ เดินออกมาระเบียงก็โดดลงสระได้เลย เราว่าเฟสนี้ค่อนข้างสงบ ไม่วุ่นวาย

ถ้าอยู่ห้องบนๆก็จะได้เห็น Sea View และห้องกว้ากว่า

เราใช้เวลาไปกับหน้าหาดซะเยอะ ทั้งเล่นวอลเล่ และว่ายน้ำ จริงๆมันก็มีลานโยคะ และมวยไทยด้วยแหละ แต่นี่เราเล่นวอลเล่ไปชั่วโมงนึงก็เหนื่อยมากแล้ว

เราว่ายน้ำที่สระโซนริมหาดตรงนี้จะติดกับห้องอาหารและ Kokulo Beach club จัด Pool Party ได้สบายเลย (ไม่พ้นคืนนี้หรอก)

Signature Cocktail ของที่นี่คือ Miss KhaoLak น่าจะเป็นรส Vodka + Berry + Lime ออกหวานๆ ดื่มง่าย ติดใจมาก ดื่มด่ำค๊อกเทล พร้อมบรรยากาศพระอาทิตย์ตกดิน ลงตั๊วว ลงตัว

ปิดท้ายค่ำคืนนี้ด้วย Seafood buffet และ Pool Party จัดทุกวันเสาร์ ที่ Kokulo beach club เป็นอันปิดทริปได้อย่างสวยงาม

ขากลับเราบินกลับกับ Bangkok Airways เช่นเดิม สายการบินบูทีคที่ดูแลเราแบบบูทีคๆ เพราะเงินที่เสียไป ไม่ได้ได้แค่ตั๋วเครื่องบิน แต่เราได้ประสบการณ์เดินทาง ที่พิเศษข้ึนมาอีกระดับ

ถึงได้มาแค่ 3 วัน แต่เราว่ามันก็เพียงพอต่อการพักผ่อน พักใจ พักสายตาจากคอม พักคอจากเก้าอี้ทำงาน ที่แพงแค่ไหนก็ปวดคออยู่ดี 555 (เพราะนั่งนานเกินไป) ได้พบปะ สังสรรค์ เปย์ตัวเอง ถ้าอยู่นานกว่านี้กระเป๋าตังจะแฟบแล้วทุกข์ใจไปอีก โอยย

แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้าค่ะ
ต้นอ้อ