HELLO! CAMBODIA | สวัสดีกัมพูชา ฉันจะพาไปทะเล (Chapter 1 : On the way)


ถ้าพูดถึงกัมพูชา คงจะนึกถึงนครวัด-นครธม หรือ พนมเปญ แต่ทริปนี้เราไม่มีนะ เราอยากไปทะเล เราแค่อยากไปดู ไปเห็นกับตา ว่าทะเลประเทศเพื่อนบ้านจะหน้าตาเป็นยังไง

เป็นครั้งที่สองที่มาประเทศกัมพูชา และก็มาช่วงปีไหม่เหมือนเดิม ไม่รู้ว่าติดใจอะไร ทริปนี้เลยจะเอาทะเลเขมรอย่างเดียว

เป้าหมายของเราคือเกาะรง(koh rong) จังหวัดสีหนุวิลล์ (Sihanoukville) ประเทศกัมพูชา (Cambodia)

kohrong_057_Fotor_Collage

 

จากการหาข้อมูลแล้ว กรุงเทพ ไป ทะเลเกาะรง ประเทศกัมพูชา หาไม่ได้เลยจ้าาาาาา ไม่รู้ว่าไม่มีใครไปเพราะไม่สวยหรือไม่รู้จัก หรือเราหาไม่เจอ หรือยังไง (เราหาก่อนไป3วัน) – -“ มันเลยไม่ใช่ทริปชิกๆคูลๆ เป็นไกด์เดินทางสำหรับใครๆก็ไม่ได้ เราไม่ได้เก่งขนาดนั้น เราก็มั่วมาเหมือนกัน โดนหลอกมาก็เยอะ คิดเงินก็ไม่ทัน ตกรถ กลับบ้านไม่ได้ แถมยังมาเจอคนแปลกๆอีก มีการเดินทางที่ง่ายกว่านี้ แต่เราก็เลือกที่จะมาแบบนี้ โอเคนะ แต่มันก็น่าจะมีประโยชน์กับใครๆบ้างแหละ เนอะๆ

kohrong_censor3

 

ก่อนไป เราหลอกน้องที่ออฟฟิสมาได้คนนึง เอาไปเปนเพื่อนร่วมชะตากรรม 555 สรุปทริปนี้มี 2 ชะนี ปกติปีไหม่ต้องกลับบ้าน แต่ครั้งนี้ ขอหนีพ่อแม่ไปปีไหม่ที่แคมโบเดียนะคะ

เราชื่อต้นอ้อ แต่ถูกเรียกว่า พี่ต้น  – -” ส่วนอีกนางชื่อเม็ดนุ่น แต่เรียกนางว่าเม็ดก็พอ :}

เรากะไปแค่ 5 วัน (28DEC14-1JAN15) (แต่ทำไม่ได้ เพราะอะไรเดี๋ยวค่อยเล่านะ) โดยจะแบ่งเป็น 5 ภารกิจ 2 ตอน ไม่เคยไปมาก่อน ไม่รู้ว่าต้องไปยังไง ความรู้น้อยมาก รู้สึกเหมือนกำลังเล่นเกมส์ เราจะผ่านมันไปด้วยกันนะ เมล็ด ค่อยๆผ่านด่านไปเรื่อยๆ หรือมันคือ ไปตายเอาดาบหน้า 555

ตอน 1 “ON THE WAY”
mission 1 : กรุงเทพ ไป ตราด
mission 2 : ตราด ไป เกาะกง
mission 3 : เกาะกง ไป สีหนุวิลล์(Sihanouk Ville)

ตอน 2 “ KOH RONG! HERE WE ARE”
mission 4 : สีหนุวิลล์ ไปเกาะรง – COUNTDOWN ปีไหม่ที่นี่แหละ
mission 5 : เกาะรง กลับ กรุงเทพ อย่างปลอดภัย (หราาาาา)

 


 

mission 1 : กรุงเทพ ไป ตราด

โหยย ภารกิจแรกนี้โคตรง่ายเลย เมื่อคืนมีงานไม่ได้นอนหรอ มันไม่ใช่ปัญหาค่ะ ไว้ไปหลับบนรถเอาแล้วกัน เรานัดกันที่ท่ารถตู้อนุสเสาวรีย์ 7 โมงเช้า ซื้อตั๋ว ละก็ขึ้นรถตรงไป บขส ตราดเลย

จบด่านแรก
สบ๊ายยย

kohrong_002


mission 2 : ตราด ไป เกาะกง

พอถึงบขส ตราด ก็สบายใจเฉิบ เดินถามหารถไปด่านชายแดน เค้าบอกว่า ให้รอที่ชานชาลา13 ได้เลยย ไปด่านตรวจคนเข้าเมืองบ้านหาดเล็ก พอรู้ว่ามีรถตู้ออกตลอดเท่านั้นแหละ เมล็ด ผู้ที่เอากล้องฟิล์มมาแต่นางลืมซื้อฟิล์ม เลยนั่งพี่วินมอไซด์ไปโลตัสใกล้ๆ ปรากฎว่าก็ไม่มีฟิล์มอีก นางเลยได้ซื้อ GoPro ปลอมมาแทน (มันแทนกันได้จริงๆหรอ) แถมชิลสลัด ตากแอร์ เดินชอป กินเคเอฟซี ในโลตัสนั้นแหละ

“เมล็ดคะ ไปกันได้รึยังวะคะ
เดี๋ยวตกรถที่เกาะกง”

แล้วเรากับเม็ด ก็รีบนั่งพี่วินกลับไปบขส และขึ้นรถตู้ไปด่านชายแดน ประมาณ 1 ชม

บ้านหาดเล็ก เป็นจุดที่แคบที่สุดของประเทศไทย และเป็นเมืองสุดท้ายในภาคตะวันออก คือถ้ามองจากแผนที่เนี่ย เหมือนกับเมืองนี้อยู่ในเขตกัมพูชาแล้ว เพราะเป็นติ่งสุดท้ายของประเทศไทยพอดี


ณ  ด่านชายแดน ไทย-กัมพูชา

พอไปถึงนะ โอ้โหววววว ชอตแรก ยังไม่ทันเปิดประตูรถตู้ ก็มีคนข้างนอกมารุมเกาะกระจกส่องๆเข้ามาแล้ว อารมณ์ประมาณวันสงกราน แล้วเรานั่งอยู่ในรถที่มีคนข้างนอกพยามจะส่องเข้ามาปะแป้ง นึกออกใช่มั้ย ตอนลงไม่ต้องพูดถึง พี่แกหยิบกระเป๋าออกจากมือ เอาไปวางบนรถเข็นพี่แกเลย คือน่ากลัวมาก พี่แกจะเข็นของไปส่งที่ด่านให้ แต่ไม่ต้องก็ได้มั้งคะ กระเป๋าใบเดียวเอง สะพายได้ค่ะพี่ เราสองคนหยิบกะเป๋าจากรถเข็น แล้วก็รีบเดินจั้มออกมา มุ่งไปที่ตม.

ทำเรื่องยื่นพาสปอตข้ามประเทศ ตม. เขมร ขอเก็บค่าอะไรก็ไม่รู้ คนละ 200 โหย น้องไม่มีเงินค่ะพี่ “อ๊อดเมียนโร้ยๆ” (ภาษาเขมรแปลว่าไม่มีตัง) และจากการเข้าเสียมเรียบครั้งที่แล้วเราโดนเก็บแค่ 100 นึง ก็เลยหยิบแบงค์ร้อยวางแล้วเดินดุ่มออกมาเลย (เดาว่าเงินเข้ากระเป๋าตม.ค่ะ)

kohrong_005

kohrong_006
นี่เราเหยียบแผ่นดินประเทศเขมรอย่างเต็มตัวแล้วสินะ การเดินทางของจริงมันกำลังจะเริ่มขึ้น ภาษาที่เราฟังไม่รู้เรื่อง เมืองที่เราไม่รู้จัก เราจะเอ๋ออยู่ในเขมรถึง 5 วันหลังจากนี้ นึกภาพตัวเองไม่ออกเลย แต่ก็ลุยว๊อยยย!


mission 3 : เกาะกง ไป สีหนุวิวล์

ก่อนอื่น เราต้องหารถเข้าเมือง เพราะจากด่านเข้าเกาะกงค่อนข้างไกล หลังจากทำเรื่องเสร็จ เดินลงบันไดออกมาเท่านั้นแหละ กลุ่มชายฉกรรประมาณ 5-6 เข้ามารุม “ไปรถยนต์มั้ย แอร์เย็นๆ” พอไม่เอารถยนต์ ปฏิเสธไปว่ามันแพง ดันมีมอไซด์มาขายอีก คนละร้อย เราว่ามันไม่น่าแพงขนาดนั้น เคยอ่านมามันแค่50บาท หลังจากโดนวินมอไซด์รุม ก็มีพี่วินขี่ม้าขาว ขี่มอไซด์แทรกเข้ามาบอกว่า 100นึง 2 คน เราสองคนเลยรีบขึ้นไปซ้อน 3 แล้วบึ่งออกไปเลย จังหวะนั้น ดีใจมากค่ะ หลุดออกจากดรงนั้นได้ซักที

kohrong_007
ระหว่างทาง มีคาสิโนและโรงแรมหรูหรามากมาย และยังมีซาฟารีด้วย แต่เราไม่ได้เข้าไปหรอก จุดหมายเราไม่ได้อยู่ที่นี่ (ถ้ามากับแม่ว่าไปอย่าง จะพาแม่เข้าคาสิโน ฮ่าๆๆ) ก่อนจะเข้าเมืองเกาะกงนั้น จะได้ข้ามสะพานที่ยาวที่สุดในประเทศกัมพูชา ประมาน 2 กิโลเมตร สร้างโดยบริษัทเอกชน เค้าเก็บตังค่าข้ามด้วยนะเออ แต่พี่มอไซด์เราจ่ายให้

เกาะกง

เป็นชื่อจังหวัดของกัมพูชา ไม่ใช่เกาะอย่างที่เคยเข้าใจ แต่ในจังหวัดเกาะกงจะมีเกาะกงจริงๆอยู่ เรียกว่า เกาะกง Island เกาะกงเคยเป็นเมืองหนึ่งของประเทศไทยด้วยนะ แต่ด้วยเหตุผลทางการเมืองระหว่างประเทศไทย กัมพูชา ฝรั่งเศษ ทำให้พื้นที่นี้เป็นของกัมพูชา ณ ปัจจุบัน (ข้อมูลไม่แน่นค่ะ)

kohrong_008


เราบอกพี่วินไปส่งที่ท่าขึ้นรถไปสีหนุวิวล์

แต่ที่เค้ามาส่ง ไม่ใช่ที่ บขส นะ เหมือนเป็นบริษัทรถทัวร์

พอมาถึง ก็จ่ายแบงค์ร้อยไป พี่วินบอกเอามาอีกร้อยนึง (พูดไทยได้)
อ้าววว อีนี่
พี่บอกว่า 2 คน 100 นี่
ป่าว พี่แกบอกคนละ 100 นึง 2 คน 200!!!!

รู้งี้กุมาคนละคันดีกว่ามั้ย ไม่ต้องอัด 3 จนอิเม็ดแบนเป็นแซนด์วิชอย่างนี้
แต่คนนี้เถียงไม่ได้ แม่งไม่ไปซักที เพราะจอดรถลงมารอเอาเงินเลย
เลยจ่ายๆไป จากพี่วินขี่ม้าขาว กลายเป็นอีพี่วินหน้าเลือดในทันใด ชริ

หลังจากจ่ายเงินค่าอิพี่วินไป นางก็ขับออกไปเลย
เราเดินเข้ามาถามที่ขายตั๋ว จะไปสีหนุห์วิลล์ หรือที่คนเขมรเรียกว่า กัมโปงสม

“โนแฮฟ ทูเดย์ โนแฮฟ”
“ทูมอโร่หละ?”
“ทูเดย์ โนแฮฟ ทูมอโร่ โนแฮฟ”

เอ่อ ตั๋วหมด
“เค้าบอกว่าโนแฮฟตั๋วหวะ เอาไงดีวะ
กุว่าลองไป บขส ดูมั้ย มันน่าจะมีอีกหลายๆบริษัทอยู่ที่นั่นนะ”
พูดแล้วก็แค้นอิพี่วินที่เอาเราสองคนมาทิ้งร้านที่ตั๋วหมด เพื่อออ….

“แล้วไปยังไงวะพี่????”

คือ เราก็ปริ้นแต่ลายแทงของสีหนุวิลล์มาไง
แต่เกาะกงนี้ไม่คิดจะอยู่ เลยไม่ได้ปริ๊นหวะ

2 ชะนียืนเอ๋ออยู่ซักพักก็ออกเดิน
ไม่รู้เดินไปไหน อะไรยังไง รู้แต่ตอนนี้อยู่แถวตลาด
มีวินมอไซด์อยู่เป็นระยะ
มีตุ๊กๆขับผ่านไปมาตลอด
มีคันนึงมาจอดข้างๆเราสองคน แล้วถามว่า

“ Where’re you going?
Hotel? “
เหนเราเงียบๆ ไม่ตอบอะไร ฮีเลยถามต่อ

“คนไท้ย?”

“YES!”

เราตอบเป็นภาษาอังกฤษ – -“
แต่คนขับตุ๊กๆคันนี้พูดไทยได้ค่ะ
เราเลยตัดสินใจไป ถึงแม้จะเข็ดจากพี่วินคนก่อน แต่ทำไงได้อะ
โดยพี่เค้าบอกว่า ค่าโดยสารอะ แล้วแต่จะให้เลย

พี่ตุ๊กตุ๊กคันนี้ พาไป บขส เกาะกง ที่ซึ่งร้างและปล่าวเปลี่ยวมาก มีแต่หมานอนอยู่ตัวนึง
จริงๆ พี่เค้าก็บอกก่อนแล้วแหละว่าตอนนี้มันไม่มีรถแล้วบ่าย 3 แล้ว แต่เราดันไม่เชื่อ
เค้าบอก ถ้าไปสีหนุวิลล์มีรอบสุดท้ายคือบ่ายโมง
(ซึ่งตอนบ่ายโมงกำลังนั่งกินเคเอฟซีเพลินที่ตราดอยู่เลย 555 ใครมันชวนกินวะ ตกรถเลยเนี่ย)
เค้าเลยพาไปซื้อตั๋วที่ท่ารถเจ้าอื่น เจ้าอื่นๆก็พากันโนแฮฟตั๋วหมด
จนมาเจ้าสุดท้าย ได้รอบ 8โมงเช้าพรุ่งนี้ 400 บาท
เจ้านี้เค้าบอกว่าแพงกว่าเจ้าอื่นๆนะ เพราะเป็นรถ “VIP”

หลังจากนั้นพี่ตุ๊กๆ ก็พาเราไปหาโรงแรม

kohrong_009


ที่หน้าโรงแรม APEX HOTEL

เรายื่นเงินให้พี่ตุ๊กๆ 50 บาท
ฮีทำหน้านอยด์ใส่ แล้วขอเพิ่มอีก
อ้าว อีนี่
ไหนบอกว่าให้เท่าไหร่ก็ได้ไง
เถียงกันไปมา พี่โรงแรมมาเคลียให้
เราจ่ายเพิ่มอีก 20 บาทแล้วก็โบกมือลาไป
ซึ่งจริงๆแล้วมันจะเอาร้อยนึง
ทำไมเราต้องเป็นคนแพ้ตลอดฟะ!
ทำไมนะ ทำไม

โรงแรมนี้ พี่ตุ๊กๆแนะนำว่าดีนะ ไวไฟแรง มีสระว่ายน้ำด้วย
คือจริงๆก็ไม่รู้จะเอาสระว่ายน้ำทำไม
กะพักแค่คืนเดียวเป็นทางผ่านเฉยๆ
แต่ก็โอนะ 400 บาทเอง (ขอจ่ายเป็นเงินไทย เพราะยังไม่แลกเงินมา)
ห้องสะอาด เตียงนุ่ม บรรยากาศดี

หารู้ไม่ว่า หลังจากนี้จะต้องพบกับอะไรบ้าง ณ โรงแรมแห่งนี้!!!
หึหึหึ

kohrong_011

kohrong_010


พักผ่อนตามอัธยาศัย

เราเอาของเข้าเก็บ แล้วออกมาเดินเล่นหาอะไรกิน
เดินไปจนสุดซอยจะเป็นถนนเรียบแม่น้ำ
มีสวนสาธารณะ สนามเด้กเล่น และร้านค้ามากมาย

ที่นี่ก็เป็นเหมือนแลนด์มาร์คริมน้ำ คล้ายๆริมโขงบ้านเรา
มีนักท่องเที่ยวบ้าง มีคนออกกำลังกาย
เด็กสะก๊อยและแว๊นเยอะหน่อย กำลังนั่งกินเบียอยู่ริมทาง
เป็นที่จีบกันของคู่รักแห่งเกาะกงเลย เราคิดว่างั้นนะ
บรรยากาศดี๊ดี

kohrong_013

kohrong_012


อยากกินอาหารพื้นถิ่น
เราสองคนตัดสินใจเข้าร้านอาหารหนึ่งริมแม่น้ำ
เพราะเห็นร้านนี้คนเยอะดี มีหม้อไฟตั้งอยู่กลางโต๊ะ น่าลองนะแก

เดินเข้าไปด้วยความเอ๋อ พูดภาษาอังกฤษก็ไม่มีใครเข้าใจ
ภาษาไทยเค้าก็งงๆ กัน แล้วเข้าไปเรียกเด็กเสริฟคนนึงมา
เค้าพูดไทยได้นิดหน่อย
โล่งละ แต่ก็ไม่รู้จะสั่งยังไงอยู่ดี
เลยชี้ไปว่า เอาแบบโต๊ะข้างๆ 1 ชุด

เราถามว่า ไอ้นี่มันชื่ออะไร
ชายเขมรพูดไทยได้นิดหน่อย พูดสั้นๆว่า

“ซุป”

โอ้โหวว

มาเต็ม จะเรียกจิ้มจุ่มก็ไม่เชิง แจ่วฮ้อนก็ไม่ใช่ แต่รสใกล้ๆกับเฝออยู่นะเม็ดบอก
มีจานเนื้อตอกไข่ จานเกี๊ยวและเส้นบะหมี่ และจานผักมาให้
ส่วนที่แปลกหน่อยคือน้ำซุปในหม้อนั่นแหละ ของดีเลย
เราเป็นคนชอบกินเนื้ออยู่แล้ว เลยแยกออกว่าทั้งหมดเนี่ย คือเนื้อวัวนะ
ในซุปเป็นเหมือนเนื้อตุ๋น เอ็นตุ๋น ลูกชิ้น ถูกปรุงมาแบบถูกปากเจ๊มาก
ซดแค่น้ำอย่างเดียวก็ฟินแล้ว ยิ่งเอาเนื้อเข้าไปลวกด้วย
แล้วจิ้มน้ำจิ้ม เข้าปาก แซบบบอย่าบอกใคร ไม่ได้ค่าโฆษณา

พูดถึงน้ำจิ้มซักหน่อย มีขวดฉลากภาษาเขมรวางอยู่บนโต๊ะ 3 ขวด
อันนึงเป็นซอสพริกธรรมดา
อีกอัน LYLY beancurd ไม่รู้อะไร รสเหมือนน้ำพริกเผาแม่ประนอม
อีกอันเขียนว่า hoisin sauce อันนี้เค็มๆหวานๆ เอามาปรุงกับพริกมะนาว อร่อยมาก
ไม่รู้เค้ากินกันแบบนี้รึป่าว แต่มื้อแรกของที่นี่ ถือว่าดีงามสามโลก ยิ้ม

“กึ๊ดโรย”
แปลว่าคิดตังเลยค่าาาา

บิลออกมา 48500 รีล
เราขอเค้าจ่ายเป็นเงินไทย เค้าคำนวนมาให้ 400 บาท
เออ แพงใช้ได้นะมื้อนี้

**โจ๊ะไทบานเต๊ = ลดได้มั้ย?
**อ๊อดเมียนโร๊ยยย = ไม่มีเงิน
คิดไงไม่รู้เตรียมแต่ศัพทฺแบบนี้ไป
แม่ค้าตอบกลับมาที ไปไม่เป็นเลยจ้า
สรุปว่าไม่ได้ลดนะเออ
555


คลับเขมร
ด้วยความซ่าของเราสองคน
มาถึงเกาะกงทั้งที สร้างแลนด์มากด้วยการไปนั่งบาร์จิบเบียพื้นถิ่นกันเถอะ
เลยไปถามพี่รีเซฟชั่นของโรงแรม เค้าก็แนะนำมา พร้อมบอกทางเรียบร้อย

เราว่าเราก็บอกชัดแล้วนะว่าจะไปบาร์
ไม่ใช่คลับตื๊ด (คือคลับเพลงแด๊น ตี๊ดๆ มั่วๆ)
แต่แถวนี้ก็ไม่มีเลยนอกจาก pussy bar ข้างโรงแรม
แค่ชื่อเราก็ไม่กล้าเข้าอะค่ะ ข้างหน้ามีผู้หญิงเอ็กนั่งอยู่
เอาวะแก ไปคลับตื๊ดก็ตื๊ดวะ
เรารู้ว่ามันอาจจะอันตราย อาจจะน่ากลัว และอาจจะไม่จรรโลงจิตใจ
แต่เราคิดว่า เรามีกัน 2 คน ดูแลกันน่าจะได้ ไม่ต้องไปยุ่งกับใครก็พอ
เรากะไปเต้นมันๆรั่วๆกันสองคนอยู่แล้ว
ผ่าน WiP กทม มาได้ ที่นี่ก็ไม่น่าจะมีอะไรหรอก
**แต่ไม่แนะนำให้ไปเลยค่ะ

“Pun Pun Club”

ในนี้เปิดเพลงไทยด้วยหวะแกร
บางเพลงก็ดนตรีนี่มาเลย นึกว่าจะไทเท แต่เนื้อร้องดันเป็นขแมร์
ส่วนใหญ่แล้วก็เป็นดีเจเปิดเพลงตื๊ดแบบ RCA แหละ ตื๊ดๆ ไป

แต่มีสิ่งนึงที่แปลกกว่าบ้านเราคือ
เค้าจะเต้นเพลงช้ากันด้วย
ตอนแรกได้ยินเปิดเพลงช้า นึกว่าผับจะปิด ถ้าอยู่ไทยนี่เดินออกไปแระ
แต่ที่นี่ เพลงช้าขึ้นปุ๊ป จูงมือมากันเป็นคู่เลย เต้นกอดกันซบกัน ช/ญ หรือ ญ/ญ ก็มี
(เออลืมบอกที่นี่เค้าจะเดินไปเต้นกันบนฟลอนะ)
เรากับเม็ดก็เอากับเค้าด้วย ออกไปเต้น 555
เพลงช้าจบก็เพลงเร็วต่อ สนุกสนานกันไป ถึงตี 2
แล้วก็กลับมาโรงแรม

ปล.ชนครวยยย แปลว่า ชนแก้ว!!
ได้ยินอย่างนี้จริงๆ ไม่รู้ถูกรึป่าวนะ
ไม่ได้ตั้งใจจะพูดไม่เพราะ แต่มัน ชนครวยยยยกันดังจริงๆ


เหตุการณ์ ณ โรงแรม
หลังจากกลับห้องเรียบร้อยปลอดภัยไม่เมา
ซักพักได้ยินเสียงมีคนมาเคาะประตู
เราส่องตรงตาแมวประตูก็เห็นว่า เป็นผู้ชายสองคน ที่เจอที่คลับ!!!

“เอาแล้วไงแก มันตามมาถึงนี่เลยหรอวะ!”
(คือตอนอยู่คลับจะมีคนมาชนแก้วเรื่อยๆค่ะ แต่สองคนนี้จะเข้ามาบ่อย)

มันเคาะเสียงดังมาก เหมือนเมามา
จากเคาะประตู ก็ย้ายมาเคาะหน้าต่าง
ลองย้อนกลับไปดูภาพภายในห้องนะ มีหน้าต่างบานใหญ่เท่าบ้าน อยู่ติดประตูเลย
หนักไปกว่านั้น หน้าต่างห้องเราเสือ กล็อกไม่ได้! แต่มีเหล็กดัดกันอยู่
คือเอามือยื่นเข้ามาง่ายมาก แขนยาวๆนี่เปิดประตูห้องได้เลย
ได้ยินเสียงกุกกักเหมือนมันกำลังจะเลื่อนหน้าต่าง (แต่เราปิดม่านอยู่)

เรากับเม็ดมองหน้ากัน
คือดูหน้าก็รู้แล้วว่ามันกลัวสุดๆ
เราก็กลัวสุดๆเหมือนกัน
บวกกับรู้สึกผิดมาก เพราะเราเป็นคนชวนเม็ดมา
วันแรกของทริปเขมรก็มีเรื่องแล้วหรอวะเนี่ยยยยย

ต้องทำอะไรซักอย่างหวะ

เรากับเม็ดตัดสินใจเปิดม่านไปเจรจากับมัน
จะเอาไง เคาะทำไม คนจะนอน (พูดภาษาอังกฤษนะ)
มันบอกว่า ขอเข้ามานั่งกินเหล้าต่อด้วย เพราะเพื่อนไม่เปิดห้องให้

เห ี้ยๆๆ!!ไม่เคยเห็นอะไร เหี้ยขนาดนี้ ขออภัยหากพูดคำหยาบ

เม็ดบอกมันไปว่า พวกเรากำลังจะนอน กลับไปได้แล้ว อย่ามารบกวน
เราปิดม่าน ปิดหน้าต่าง ปิดไฟทั้งหมด ให้ข้างในมืดสุดๆ
ส่วนจุดเสียบคีการ์ดจะอยู่ใกล้หน้าต่าง มือล้วงถึง
เราเลยต้องเอากุญแจออกจากคีการ์ดมาเก็บไว้
แล้วเข้ามาอยู่หลบในห้องน้ำกันสองคน กลัวมันจะเปิดหน้าต่างมาเห็น

เหมือนมันจะเดินออกไปแล้วนะ แต่สักพักมันก็กลับมาเคาะอีก
แต่เราไม่คิดจะไปเปิดอีกแล้ว ทำเหมือนนอนกันแล้ว
พอเสียงเงียบ เราผลัดกันไปส่องตาแมวดูลาดเลา
ว่ามันยังอยู่มั้ย มันยกเก้าอี้มานั่งปักหลักหน้าห้องเลยจ้า
ยันตี4 มันก็กลับ
แต่เรานอนไม่หลับทั้งคืน

ถ้าถามว่าทำไมไม่โทรหารีเซฟชั่น
คือ
หนึ่งในคนที่มาเคาะห้องคืนนั้น
ก็คือรีเซฟชั่นที่แนะนำเราไปคลับนั้นนั่นเอง!

ฮือๆ นี่แค่ mission 3 เองนะ จะรอดมั้ยเรา T_T

kohrong_019


เสียงเคาะห้องอีกครั้ง
ดังขึ้นในเวลา 7 โมงเช้า
แต่เสียงนี้ไม่เหมือนเมื่อคืน
เป็นรีเซฟชั่นอีกคน มาปลุกให้เตรียมตัวไปขึ้นรถไปสีหนุวิลล์
โดยเมื่อวานเราได้ฝากคนนี้เรียกตุ๊กตุ๊กไป bus station แล้วก็ฝากปลุกด้วย
ที่เค้าเตอร์หน้าโรงแรม เราไม่เห็นรีเซฟชั่นคนเมื่อคืนแล้ว
น่าจะไม่ใช่กะเวลาทำงานของมัน
อยากจะหนีโรงแรมนี้ไปให้เร็วที่สุด
ไม่ประทับใจเกาะกงเลยจริงๆ (นอกจากซุปมื้อนั้น)

ลาก่อนนะเกาะกง

เหมือนเราสองคนกำลังเสียศูนย์
วันแรกยังเจอขนาดนี้ แล้ววันต่อๆไปจะขนาดไหน
แต่ไม่ว่าจะยังไง เราก็จะยังเดินทางไปต่อ
รีบเคลีย mission นี้ให้จบ จะได้ไปถึงจุดหมายสักที
เก็บไว้เป็นบทเรียน อย่าซ่ามาก มันไม่ใช่ถิ่นเรา
จำไว้!

ก่อนไป bus station เราให้พี่ตุ๊กตุ๊กจอดร้านแลกเงิน
เราเปนคนที่ช้าเรื่องตัวเลขมาก อย่าให้คำนวนเชียว
จำไม่ได้ด้วย ว่าได้เรทเท่าไหร่มา
รู้แต่ว่าขาดทุนมากกกกก
คิดไม่ทัน ต่อรองไม่ทัน
คิดง่ายๆสำหรับเราคือ
1000 รีล = 10 บาท
4000 รีล = 1 Dollar
40 บาท   = 1 Dollar

**ถ้าเราซื้อของราคาเป็น dollar แต่เราจะจ่าย รีล เค้าจะคูณ 4000
แต่พอซื้อของ 3000 รีล จะจ่ายดอลล่า คิดเรา 1 ดอลเฉยเลย ***
แต่ละร้านก้คิดไม่เหมือนกันอีก
งง อย่าพูดถึงตัวเลขกับเราเลย เราสงสัยจนขี้เกียจสงสัยแล้ว
ลืมเรื่องนี้ไป ชีวิตจะอยู่ง่ายขึ้น เชื่อเรา

kohrong_020


รถบัส VIP
บขส วันนี้คึกคักกว่าเมื่อวาน มีรถบัสจอดเรียงกันหลายคัน
พี่ตุ๊กๆพาเราไปส่งที่รถบัส VIP ที่ซื้อตั๋วไว้
ซึ่งดูๆแล้ว มันก็ไม่ได้ต่างจากคันอื่นๆซักเท่าไหร่
มองได้หลายแบบว่าใน บขส นี้ทุกคันคือรถ VIP
หรืออีกมุมนึงคือ กุโดนหลอกให้ซื้อ VIP แล้วไงหละ 5555

บรรยากาศบนรถมีฝรั่งหัวทองประปราย แต่ส่วนใหญ่เป็นหัวดำ
เค้าบอกว่าใช้เวลา 5 ชั่วโมง ถึงจังหวัดกำโปงสม หรือสีหนุวิลล์
ระยะทางจริงๆไม่ไกลมาก แต่ทางเป็นทางลูกรังและขึ้นเขา ทำให้ช้า
แต่ไม่เป็นไร บนรถมีทีวีเปิด MV เพลงลูกทุ่งเขมรกล่อมประสาทตลอดทาง
นี่ละมั้ง VIP (กุอยากนอนนนนน)

2 ชม ผ่านไป
กำลังจะหลับแล้ว
รถก็แวะจอดที่จุดพักรถระหว่างทาง
ให้ลงไปเข้าห้องน้ำ และทานอาหารอย่างด่วนๆ และรีบกลับมาขึ้นรถต่อ


นั่งไปได้ซักพัก จนเกือบจะหลับอีกรอบ
รถก็จอดอีกครั้ง และมีพนักงานเดินมาที่เราสองคน

“Kam pong som x?X@#@$@#$@??“
“yes….”
(กวักมือเรียก)

เขาเรียกเราสองคนลงจากรถ เอากระเป๋าออกจากใต้ท้องรถ
พูดอะไรซักอย่างที่ไม่รู้เรื่อง ละรถก็จากไป
งงดิ
ทิ้งเราไว้กลางทางสามแพร่ง
ยืนเอ๋อเลยย มองหน้าอิเม็ดแล้วนึกในใจ
เอาอีกแล้วสินะ ประสบการณ์ระทึกของ 2 ชะนีในแคมโบเดีย

แต่ยืนเอ๋อไม่ถึง 1 นาที มีรถบัสจากอีกทาง มาจอดข้างๆ
มีคนโผล่ออกมาจากรถมาถามว่า กำโปงสมใช่มั้ย? และ เซย์ yes สเตปเดิม
เขาเรียกขึ้นไปบนบัสคันไหม่

อ่อ
นี่คือเปลี่ยนรถสินะ
มิน่าหละ แอบงงในตั๋วบอกไป พนมเปญ แล้วขีดฆ่า
ที่แท้คันมะกี้คือจากเกาะกง ไปพนมเปญ
และคันที่เรากำลังนั่งอยู่นี่ คือรถจากพนมเปญเข้าสีหนุวิลล์

และที่เด็ดไปกว่านั้นคือ
ที่นั่ง VIP ของเรา
แปรสภาพเป็นเก้าอี้แดงสุดพิเศษ
ดังเช่นนี้แล T_T

kohrong_023

นอกจากจะอดนอนมาทั้งคืน
ยังต้องมาเจอเก้าอี้ minimal นี่อีก
ไม่กล้าเล่าให้เพื่อนฟังเลยหวะ ว่ากุไปเจออะไรมา
ความชิกๆคูลๆ หาไม่ได้ในทริปนี้ 5555


ถึงเมืองสีหนุวิลล์เรียบร้อย
ใช้เวลาถึง 2 วัน กว่าจะผ่านภารกิจนี้มาได้
เราว่าจะพักที่นี่ก่อน 1 คืน แล้วค่อยเข้าเกาะไป countdown

เป็นธรรมดาของ bus station เมื่อลงจากรถมาแล้ว
จะมีกลุ่มชายฉกรรย์ลงพุงมารุมล้อม ยังกะเราเป็นดารา
จากการหาข้อมูลมาอย่างน้อยนิด
เมืองสีหนุวิลล์แห่งนี้เป็นเมืองท่องเที่ยวขึ้นชื่อของกัมพูชา
พอๆกับเสียมเรียบ พนมเปญแหละ นักท่องเที่ยวฝรั่งเยอะ แต่พวกเราไม่ค่อยรู้กัน
มีคนนึงเล่าว่า ถ้าไปทะเลไทยมาแล้ว ไม่จำเป็นต้องมาทะเลเขมรเลย – -“

เราจะไปเริ่มที่หาด Serendipity ก่อน เพราะท่าเรือไปเกาะอยู่ที่นี่
ไม่ว่าวินพี่หนวดจะแนะนำอะไรมา เราจะไม่ไหลตามน้ำเด็ดขาด
เนื่องจากว่า หาดนี่เป็นหาดที่อยู่กลางเมืองเลย
โรงแรมจิ๊กจก โฮสเทล เกสเฮ้ากะโหลกกะลา อะไรถูกๆอยู่โซนนี้หมด
แต่ความหลากหลายพวกนี้มันมาพร้อมกับ ชายหาดพัทยาหวะ(ก่อนปรับปรุงไหม่)
นึกภาพออกนะ ที่ๆมีแม้ค้าเดินขายปลาหมึกย่าง กุ้งย่าง ขายแว่นตา
บาร์มากมายกับเก้าอี้ชายหาด ที่วางเรียงรายจนแทบมองไม่เห็นพื้นทราย
แต่ก็ไม่ใข่สายโหดอะโกโก้โคโยตี้พัทยาขนาดนั้น แต่อนาคตก็ไม่แน่
มากสุดก็บารากุ ประทัด และกัญชา แค่นั้นเอง หึหึหึ

kohrong_024


เราไปเช่ามอไซด์
แล้วหาพักหาดที่สงบๆกว่านี้ดีกว่า
สีหนุวิลล์มีตั้ง 4-5 หาดแหนะ

เราขับมอไซด์เล่นไปเรื่อยๆ แวะหาดโน้นนี่นั่น
ลงไปเดิน ถ่ายรูปเล่น พร้อมทั้งหาที่พักไปด้วย

ชิลดีหวะ พอภารกิจสำเร็จ ทุกอย่างมันก็โล่งอกโล่งใจ
อยากพักเราก็พัก อยากกินเราก็กิน อยากนอนเราก็นอน

เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวาน โดนคลื่นทะเลพัดไปแล้ว



การทำความรู้จักเมืองในแบบของเรา
คือการขับมอไซด์เที่ยวเองอะ ถนนที่นี่ถือว่าดีเลย ถนนใหญ่ลาดยางสบ๊ายยย แต่ถนนเรียบหาดก็ยังเป็นลูกรังอยู่นะ ยังได้ฟีลความพื้นบ้านอยู่ ชอบๆ แต่ถ้าขับตอนกลางคืนนี่อีกเรื่องเลย มองไม่เห็นทาง มืดแบบสุดๆ ข้างทางมีศาลพระภูมิเรื่อยๆ บ้างใหญ่ บ้างเล็ก ทำให้เรานึกถึงพวกไสยศาสตร์ขึ้นมาอีก ก็เขมรขึ้นชื่อเรื่องนี้นี่นา นึกแล้วก็กลัว เปลี่ยนเรื่องเถอะ x.x


ที่พักเราอยู่ในหาดสุดท้ายของเมืองสีหนุวิลล์เลย

“Otres Beach” ขับออกมาจากเมืองประมาณกี่โลไม่รู้ แต่ขับไป-กลับ น้ำมันก็เกือบหมดถังอะ จากเติมมาเต็ม 555 ไม่รู้น้ำมันปลอมหรือถังน้ำมันมอไซด์จุได้น้อยกันแน่อะนะ

“FootPrint Backpaker hostel”

ที่นี่มีห้อง Dorm และ Private room แต่ขายเป็นเตียงเหมือนกัน เตียงละ $9 อุส่าตื่นเต้นจะได้เจอรูมเมทไหม่ โถ่ ดันได้อยู่ private room กับอิเม็ด 2 คน เพราะ dorm เต็ม ส่วนด้านหน้า เป้น beach bar ติดทะเล เอาไว้นั่งเล่นคูลๆ


Otres Beach

ใกล้จะพรบค่ำ

เราออกมาเดินเล่นริมชายหาด นึกว่าอยู่ในฮิปปี้แลนด์ คนแต่งตัวกันชิลสลัด ฝรั่งไว้หนวด ผมยาวมาเต็ม อยู่กันง่ายๆ มีแค่เบาะนอน และมุ้งก็อยู่ได้แล้ว ไม่ต้องมีแผงกันห้องไดๆ รับลมทะเลแบบเต็มๆทั้งคืน พวกที่พักที่เน้นการตกแต่งแบบธรรมชาติมีแค่โซนนี้นะ เท่าที่เห็น แล้วก็เหมือนเค้าจะอยู่ยาวกันเป็นอาทิตย์กันเลย ถ้าหาดอื่นจะเป็นโรงแรมหรูก่อปูนสีขาวสร้างเป็นวังไปเลย

เราว่าเราคิดถูกหวะ ที่มาอยู่โซนนี่ ชอบบบ อยากมาอยู่นานๆบ้าง ซักวันนะ


ตอนเย็นที่ footprint bar มีโปร เบียร์สดลด 50% ก่อน 2 ทุ่ม ก็เลยจัดซักหน่อย
ปกติแก้วนึงก็ $1 อยู่แล้ว นี่ลดครึ่งนึงอีก โอ้ ถูกสุดๆเลย

:P

kohrong_044


ขับรถเข้าเมืองอีกครั้ง

ไปซื้อตั๋วเรือสำหรับวันพรุ่งนี้ แล้วก็กินข้าวด้วย
ที่ท่าเรือทางเข้าหาด serendipity มีบูทขายตั๋วรถ เรือ ที่พัก และทัวร์ครบ all in one
เราจัดแจงซื้อตั๋วไปกลับ koh rong ($20)
และตั๋วกลับกทมได้จากที่นี่เลย

นอกจากนั้นยังมีสิ่งที่เราเพิ่งรู้ คือมีรถจาก กทม มาถึงนี่ด้วยยยย!!
โดยไม่ต้องแต่ติดแหงกอยู่ที่เกาะกง
(แต่เราคิดว่า มันอาจจะต้องเปลี่ยนรถเหมือนเรานี่แหละ แต่แค่เวลามันชัวกว่า)

ที่เมืองสีหนุวิลล์ไม่ได้มีแค่ Koh Rong
แต่ยังมี Koh Rong Sanloem , Koh Ta kiab
และอีก 2-3 เกาะ จำไม่ได้ละ แต่เราเลือกเกาะรงเพราะมีอะไรทำมากกว่า 555

หลังจากนั้นก็ไปเดินเล่น walking street ริมหาด Serendipity กัน

บรรยากาศริมหาดนั้น ให้นึกถึงพัทยาสิบปีก่อนเลย
ไม่ก็ภูเก็ตตรงที่บาร์เยอะๆแล้วมีผู้หญิงนั่งเรียกแขกอยู่ข้างหน้า

อาหารมื้อนี้เลือกกินง่ายๆ
ที่หน้าร้านริมทะเลส่วนใหญ่จะมีตู้กระจกใส่อาหารทะเลสดๆ ไว้ให้เราเลือก
โดยเค้าจะย่างเป็นแบบ BBQ มาให้ จานละ 5 dollar  เลือกกี่อย่างก็ได้
เราเลือกเนื้อวัว หอยเชล และปลาหมึก เค้าเสริฟมาพร้อมสลัด ขนมปัง มันฝรั่ง
ส่วนน้ำจิ้มซีฟู๊ดนั้น ปะแล่มๆ เป็นส่วนผสมของผงสำเร็จรูปอะไรไม่รู้+มะนาว+พริกไทย จบ

หลังจากกินข้าว จิบเบียร์ ละก็กลับไปนอนสบายใจ หลังจากเหนื่อยมา 2 วัน
เตรียมตัวสู่จุดหมายปลายทางสุดท้ายของทริปนี้ ในวันถัดไป ตื่นเต้นจัง


วันที่ 30 ธันวาคม

10โมงเช้าแล้ว
เราตื่นก่อนเมล็ดแหละ รู้สึกชนะ 555
นอนเต็มที่จริงๆ (10 กว่าชั่วโมง)

เรือไปเกาะรงที่เราจองไว้ ออกรอบบ่าย2 (รอบเช้าเต็ม ซื้อไม่ทัน)
เพราะฉะนั้นเราจะมีเวลานอนอืด นั่งอืดอยู่บนพื้นแผ่นดินสีหนุวิลล์อีก 4 ชม

เราออกมานอนเล่นบนเก้าอี้ชายหาดหน้า beach bar
อ่านหนังสือ และคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยคนเดียว
ซักพักก็มีป้าคนนึงถือตะกร้าเดินเข้ามา (เผลอสบตาป้าแกไง)

“เฮ้! ยู ว้อน แฮรีมูฟเว่อ? 8 ดอลล่า” (ถอนขนขา)

ชีเข้ามานั่งข้าง พร้อมกับเอามือมาลูบขนขาแข็งๆของเรา 555
เรานี่รีบเซย์ โน โน โน เลย
นางบอกต่อประมาณว่า เนี่ยขนขาเยอะแล้วนะ หยาบด้วย ไม่ดีเลย ไม่สวย
อ่าว อีนี่ นอนอยู่ดีๆก็โดนด่า
แต่นางหยิบเส้นด้ายขาวๆออกมาละ เหมือนเป็นเทคนิคการถอนขนแบบใช้ด้ายอะค่ะ

เรา “ no no no”
ป้า  “ free free free just try”

แหมป้า หนูรู้เกมส์ค่ะ
ถ้าลอง เดาว่าป้าแกจะถอนแค่ 3 ตารางเซตติเมตรแล้วหยุด
ขนหน้าแข้งหนูก็จะแหว่งหนะสิ
แล้วป้าจะมาหลอกด่าหนูอีก

“ว๊ายๆๆ ขนแหว่งนะ น่าเกลียดมาก ให้ป้าถอนให้หมดมั้ย”

เกมส์นี้หนูทันค่ะป้า ป้าไปถอนคนอื่นเถอะ
5555


หลังจากเราสองคนทำภาระกิจส่วนตัวเรียบร้อย
ก็ออกมากินข้าว คืนมอไซด์ และเตรียมตัวขึ้นเรือไปเกาะรง

‘fucking pizza’
เป็นพิซซ่าสูตรพิเศษของ ร้าน mushroom guesthouse ที่ Otres beach
ที่เข้านี่เพราะเห็นคนขายหล่อนะ 555
ชื่อพิซซ่าโหด ไม่ได้คิขุเหมือนหน้าตาพิซซ่าเลย
น่ารัก งุงิ อิอิ ฮ่าฮ่าฮ่า ขำขำ  :P  (หมายถึงคนขายนะ)

kohrong_051

ส่วนท่าเรือจะอยู่ทางเข้าหลักของ Serendipity beach
speed boat เราใช้เวลา 45 นาทีถึงเกาะรงค่ะ
บนเรือนี่ฝรั่งหัวทองล้วนเลย งานดี >.<

ใกล้ถึงจุดหมายแล้ว ตื่นเต้ลลลลล

อ่านต่อ
ตอน 2  บันทึกการเดินทางสู่เกาะรง ประเทศกัมพูชา KOH RONG HERE WE ARE!

 

Hello

TEST 1

FOLLOW ME

More Stories
ขับรถเที่ยว “ภูเก็ต พังงา ระนอง” ทริปแรกหลังโควิท | THAILAND ROAD TRIP